บทนำ
ดนตรีเป็นภาษาสากลที่สามารถสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกได้หลากหลาย บันไดเสียง (Scales) เป็นพื้นฐานที่สำคัญของการสร้างสรรค์ดนตรีและการเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประพันธ์เพลง การอิมโพรไวส์ หรือการฝึกฝนทักษะทางดนตรี การเข้าใจบันไดเสียงช่วยให้นักดนตรีสามารถสร้างเสียงเพลงที่สอดคล้องและไพเราะได้ง่ายขึ้น
ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับบันไดเสียงประเภทต่างๆ ทั้งบันไดเสียงเมเจอร์ ไมเนอร์ เพนทาโทนิค บลูส์ และโหมด (Modes) พร้อมทั้งวิธีการใช้และความรู้สึกที่เกิดจากบันไดเสียงเหล่านี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มพูนความรู้ทางดนตรีให้กับทุกท่าน
บันไดเสียงเมเจอร์ (Major Scales)
บันไดเสียงเมเจอร์เป็นบันไดเสียงพื้นฐานที่พบได้บ่อยที่สุดในดนตรีตะวันตก ประกอบด้วยโทน (Tone) และเซมิ-โทน (Semitone) ในลำดับที่เฉพาะเจาะจง การสร้างบันไดเสียงเมเจอร์สามารถใช้สูตร “โทน-โทน-เซมิ-โทน-โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน” หรือ “W-W-H-W-W-W-H” โดยที่ W คือ Whole Step และ H คือ Half Step
ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง C Major ประกอบด้วยโน้ตดังนี้: C, D, E, F, G, A, B, C
C - D - E - F - G - A - B - C
W W H W W W H
หรือในบรรทัด 5 เส้น:
E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-----------------0---2---|---4---------------------|
D|---------0---2-----------|-------------------------|
A|---3---------------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|
บันไดเสียงเมเจอร์เป็นบันไดเสียงที่มีความสว่างและร่าเริง ทำให้ถูกใช้ในเพลงที่มีบรรยากาศดีและสดใส เช่น เพลงป๊อป เพลงคลาสสิก และเพลงพื้นบ้าน
นอกจากนี้ บันไดเสียงเมเจอร์ยังเป็นพื้นฐานในการสร้างคอร์ด (Chord) เมเจอร์ เช่น คอร์ด C Major ประกอบด้วยโน้ต C, E และ G ซึ่งเป็นโน้ตที่อยู่ในบันไดเสียง C Major การรู้จักและเข้าใจบันไดเสียงเมเจอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักดนตรีในการสร้างและเล่นเพลงต่างๆ
บันไดเสียงไมเนอร์ (Minor Scales)
บันไดเสียงไมเนอร์มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและความรู้สึกที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือบันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติ (Natural Minor) บันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติมีโครงสร้าง “โทน-เซมิ-โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน-โทน” หรือ “W-H-W-W-H-W-W”
ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Minor ประกอบด้วยโน้ตดังนี้: A, B, C, D, E, F, G, A
A - B - C - D - E - F - G - A
W H W W H W W
หรือในบรรทัด 5 เส้น:
E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-------------------------|---2---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|
บันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติมีความรู้สึกเศร้าและลึกลับ เมื่อเปรียบเทียบกับบันไดเสียงเมเจอร์ นอกจากนี้ยังมีบันไดเสียงไมเนอร์ฮาร์โมนิก (Harmonic Minor) ซึ่งเพิ่มโทนสูงขึ้นในขั้นที่ 7 (7th degree) ทำให้เกิดการกระทบเสียงที่เด่นชัด
ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Harmonic Minor ประกอบด้วยโน้ตดังนี้: A, B, C, D, E, F, G#, A
A - B - C - D - E - F - G# - A
W H W W H WH H
หรือในบรรทัด 5 เส้น:
E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|---1---------------------|
G|-------------------------|---1---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|
บันไดเสียงไมเนอร์เมโลดิก (Melodic Minor) เป็นอีกหนึ่งประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลงโน้ตในขาขึ้นและขาลง โดยในขาขึ้นจะเพิ่มโทนสูงขึ้นในขั้นที่ 6 และ 7 แต่ในขาลงจะกลับมาเป็นบันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติ
ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Melodic Minor ในขาขึ้น: A, B, C, D, E, F#, G#, A
A - B - C - D - E - F# - G# - A
W H W W W W H
หรือในบรรทัด 5 เส้น:
E|-------------------------|---4---------------------|
B|-------------------------|---2---------------------|
G|-------------------------|---1---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|
บันไดเสียงเพนทาโทนิค (Pentatonic Scales)
บันไดเสียงเพนทาโทนิคเป็นบันไดเสียงที่มี 5 โน้ตในหนึ่งอ็อกเทฟ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นบันไดเสียงเพนทาโทนิคเมเจอร์และไมเนอร์
บันไดเสียงเพนทาโทนิคเมเจอร์มีโครงสร้างดังนี้: “โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน-โทน” หรือ “W-W-W-H-W” ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง C Major Pentatonic ประกอบด้วยโน้ต: C, D, E, G, A
C - D - E - G - A - C
W W W H W
หรือในบรรทัด 5 เส้น:
E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-----------------0---2---|-------------------------|
D|---------0---2-----------|-------------------------|
A|---3---------------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|
บันไดเสียงเพนทาโทนิคไมเนอร์มีโครงสร้างดังนี้: “โทน-เซมิ-โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน” หรือ “W-H-W-W-H-W” ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Minor Pentatonic ประกอบด้วยโน้ต: A, C, D, E, G
A - C - D - E - G - A
W H W W H W
หรือในบรรทัด 5 เส้น:
E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-------------------------|---2---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|
บันไดเสียงเพนทาโทนิคเป็นบันไดเสียงที่ใช้ง่ายและสามารถนำไปใช้อิมโพรไวส์ในดนตรีหลายประเภท เช่น บลูส์ ร็อค และแจ๊ส
บันไดเสียงบลูส์ (Blues Scales)
บันไดเสียงบลูส์เป็นการปรับปรุงจากบันไดเสียงเพนทาโทนิคไมเนอร์ โดยเพิ่มโน้ตบลูส์ (Blue Note) ซึ่งเป็นโทนต่ำกว่าโน้ตบางตัวเล็กน้อย ทำให้เกิดเสียงที่มีความรู้สึกบลูส์
ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Blues ประกอบด้วยโน้ต: A, C, D, Eb, E, G
A - C - D - Eb - E - G - A
หรือในบรรทัด 5 เส้น:
E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-------------------------|---2---3-----------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|
บันไดเสียงบลูส์เป็นที่นิยมใช้ในดนตรีบลูส์ ร็อค และแจ๊ส ช่วยให้การเล่นมีความสนุกสนานและสร้างสรรค์
บันไดเสียงโหมด (Modes)
โหมดเป็นบันไดเสียงที่แตกต่างจากบันไดเสียงเมเจอร์และไมเนอร์ แต่ละโหมดมีลักษณะและความรู้สึกเฉพาะตัว โดยมีโหมดหลัก 7 แบบ ดังนี้:
- Ionian: โหมดเมเจอร์ทั่วไป (C – D – E – F – G – A – B – C)
- Dorian: โหมดไมเนอร์ที่มีขั้นที่ 6 เป็นโทน (D – E – F – G – A – B – C – D)
- Phrygian: โหมดไมเนอร์ที่มีขั้นที่ 2 เป็นเซมิ-โทน (E – F – G – A – B – C – D – E)
- Lydian: โหมดเมเจอร์ที่มีขั้นที่ 4 เป็นโทน (F – G – A – B – C – D – E – F)
- Mixolydian: โหมดเมเจอร์ที่มีขั้นที่ 7 เป็นเซมิ-โทน (G – A – B – C – D – E – F – G)
- Aeolian: โหมดไมเนอร์ทั่วไป (A – B – C – D – E – F – G – A)
- Locrian: โหมดไมเนอร์ที่มีขั้นที่ 2 และ 5 เป็นเซมิ-โทน (B – C – D – E – F – G – A – B)
การใช้โหมดต่างๆ สามารถทำให้ดนตรีมีสีสันและความหลากหลายมากขึ้น นักดนตรีสามารถนำโหมดไปประยุกต์ใช้ในการสร้างเมโลดี้และอิมโพรไวส์
สรุป
การรู้และเข้าใจบันไดเสียงเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างและเล่นดนตรี ไม่ว่าจะเป็นบันไดเสียงเมเจอร์ที่สดใส ไมเนอร์ที่ลึกลับ เพนทาโทนิคที่ใช้ง่าย บลูส์ที่สนุกสนาน หรือโหมดที่หลากหลาย การฝึกฝนและทดลองเล่นบันไดเสียงต่างๆ จะช่วยให้นักดนตรีพัฒนาทักษะและความสามารถในการสร้างสรรค์ดนตรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเสริมสร้างความรู้ทางดนตรีให้กับทุกท่าน
เอกสารอ้างอิง
- Toole, F. E. (2017). Sound Reproduction: The Acoustics and Psychoacoustics of Loudspeakers and Rooms. Focal Press.
- Everest, F. A., & Pohlmann, K. C. (2015). Master Handbook of Acoustics. McGraw-Hill Education.
- Ballou, G. M. (Ed.). (2015). Handbook for Sound Engineers. Focal Press.
- Newell, P. (2017). Recording Studio Design. Focal Press.
- Self, D. (2015). Small Signal Audio Design. Focal Press.
- Watkinson, J. (2018). The Art of Digital Audio. Focal Press.
- Davis, D., & Davis, C. (2014). Sound System Engineering. Focal Press.
- Rumsey, F., & McCormick, T. (2014). Sound and Recording: Applications and Theory. Focal Press.
- Holman, T. (2014). Surround Sound: Up and Running. Focal Press.
- Eargle, J. (2013). The Microphone Book: From Mono to Stereo to Surround – A Guide to Microphone Design and Application. Focal Press.
- AES Standards Committee. (2015). AES Standard method for measurements of digital audio equipment. Audio Engineering Society.
- IEC 60268-5:2003+AMD1:2007 CSV. (2007). Sound system equipment – Part 5: Loudspeakers. International Electrotechnical Commission.
- Bech, S., & Zacharov, N. (2018). Perceptual Audio Evaluation – Theory, Method and Application. Wiley.
- Mathews, M. V. (2016). Digital Signal Processing. Springer.
- Reiss, J. D., & McPherson, A. P. (2014). Audio Effects: Theory, Implementation and Application. CRC Press.