Share

บันไดเสียงคืออะไร? เรียนรู้บันไดเสียงเมเจอร์ ไมเนอร์ และอื่นๆ

19/08/2024

บทนำ

ดนตรีเป็นภาษาสากลที่สามารถสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกได้หลากหลาย บันไดเสียง (Scales) เป็นพื้นฐานที่สำคัญของการสร้างสรรค์ดนตรีและการเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประพันธ์เพลง การอิมโพรไวส์ หรือการฝึกฝนทักษะทางดนตรี การเข้าใจบันไดเสียงช่วยให้นักดนตรีสามารถสร้างเสียงเพลงที่สอดคล้องและไพเราะได้ง่ายขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับบันไดเสียงประเภทต่างๆ ทั้งบันไดเสียงเมเจอร์ ไมเนอร์ เพนทาโทนิค บลูส์ และโหมด (Modes) พร้อมทั้งวิธีการใช้และความรู้สึกที่เกิดจากบันไดเสียงเหล่านี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มพูนความรู้ทางดนตรีให้กับทุกท่าน

บันไดเสียงเมเจอร์ (Major Scales)

บันไดเสียงเมเจอร์เป็นบันไดเสียงพื้นฐานที่พบได้บ่อยที่สุดในดนตรีตะวันตก ประกอบด้วยโทน (Tone) และเซมิ-โทน (Semitone) ในลำดับที่เฉพาะเจาะจง การสร้างบันไดเสียงเมเจอร์สามารถใช้สูตร “โทน-โทน-เซมิ-โทน-โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน” หรือ “W-W-H-W-W-W-H” โดยที่ W คือ Whole Step และ H คือ Half Step

ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง C Major ประกอบด้วยโน้ตดังนี้: C, D, E, F, G, A, B, C

C - D - E - F - G - A - B - C
W   W   H   W   W   W   H

หรือในบรรทัด 5 เส้น:

E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-----------------0---2---|---4---------------------|
D|---------0---2-----------|-------------------------|
A|---3---------------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|

บันไดเสียงเมเจอร์เป็นบันไดเสียงที่มีความสว่างและร่าเริง ทำให้ถูกใช้ในเพลงที่มีบรรยากาศดีและสดใส เช่น เพลงป๊อป เพลงคลาสสิก และเพลงพื้นบ้าน

นอกจากนี้ บันไดเสียงเมเจอร์ยังเป็นพื้นฐานในการสร้างคอร์ด (Chord) เมเจอร์ เช่น คอร์ด C Major ประกอบด้วยโน้ต C, E และ G ซึ่งเป็นโน้ตที่อยู่ในบันไดเสียง C Major การรู้จักและเข้าใจบันไดเสียงเมเจอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักดนตรีในการสร้างและเล่นเพลงต่างๆ

บันไดเสียงไมเนอร์ (Minor Scales)

บันไดเสียงไมเนอร์มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและความรู้สึกที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือบันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติ (Natural Minor) บันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติมีโครงสร้าง “โทน-เซมิ-โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน-โทน” หรือ “W-H-W-W-H-W-W”

ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Minor ประกอบด้วยโน้ตดังนี้: A, B, C, D, E, F, G, A

A - B - C - D - E - F - G - A
W   H   W   W   H   W   W

หรือในบรรทัด 5 เส้น:

E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-------------------------|---2---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|

บันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติมีความรู้สึกเศร้าและลึกลับ เมื่อเปรียบเทียบกับบันไดเสียงเมเจอร์ นอกจากนี้ยังมีบันไดเสียงไมเนอร์ฮาร์โมนิก (Harmonic Minor) ซึ่งเพิ่มโทนสูงขึ้นในขั้นที่ 7 (7th degree) ทำให้เกิดการกระทบเสียงที่เด่นชัด

ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Harmonic Minor ประกอบด้วยโน้ตดังนี้: A, B, C, D, E, F, G#, A

A - B - C - D - E - F - G# - A
W   H   W   W   H   WH  H

หรือในบรรทัด 5 เส้น:

E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|---1---------------------|
G|-------------------------|---1---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|

บันไดเสียงไมเนอร์เมโลดิก (Melodic Minor) เป็นอีกหนึ่งประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลงโน้ตในขาขึ้นและขาลง โดยในขาขึ้นจะเพิ่มโทนสูงขึ้นในขั้นที่ 6 และ 7 แต่ในขาลงจะกลับมาเป็นบันไดเสียงไมเนอร์ธรรมชาติ

ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Melodic Minor ในขาขึ้น: A, B, C, D, E, F#, G#, A

A - B - C - D - E - F# - G# - A
W   H   W   W   W   W   H

หรือในบรรทัด 5 เส้น:

E|-------------------------|---4---------------------|
B|-------------------------|---2---------------------|
G|-------------------------|---1---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|

บันไดเสียงเพนทาโทนิค (Pentatonic Scales)

บันไดเสียงเพนทาโทนิคเป็นบันไดเสียงที่มี 5 โน้ตในหนึ่งอ็อกเทฟ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นบันไดเสียงเพนทาโทนิคเมเจอร์และไมเนอร์

บันไดเสียงเพนทาโทนิคเมเจอร์มีโครงสร้างดังนี้: “โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน-โทน” หรือ “W-W-W-H-W” ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง C Major Pentatonic ประกอบด้วยโน้ต: C, D, E, G, A

C - D - E - G - A - C
W   W   W   H   W

หรือในบรรทัด 5 เส้น:

E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-----------------0---2---|-------------------------|
D|---------0---2-----------|-------------------------|
A|---3---------------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|

บันไดเสียงเพนทาโทนิคไมเนอร์มีโครงสร้างดังนี้: “โทน-เซมิ-โทน-โทน-โทน-เซมิ-โทน” หรือ “W-H-W-W-H-W” ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Minor Pentatonic ประกอบด้วยโน้ต: A, C, D, E, G

A - C - D - E - G - A
W   H   W   W   H   W

หรือในบรรทัด 5 เส้น:

E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-------------------------|---2---------------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|

บันไดเสียงเพนทาโทนิคเป็นบันไดเสียงที่ใช้ง่ายและสามารถนำไปใช้อิมโพรไวส์ในดนตรีหลายประเภท เช่น บลูส์ ร็อค และแจ๊ส

บันไดเสียงบลูส์ (Blues Scales)

บันไดเสียงบลูส์เป็นการปรับปรุงจากบันไดเสียงเพนทาโทนิคไมเนอร์ โดยเพิ่มโน้ตบลูส์ (Blue Note) ซึ่งเป็นโทนต่ำกว่าโน้ตบางตัวเล็กน้อย ทำให้เกิดเสียงที่มีความรู้สึกบลูส์

ตัวอย่างเช่น บันไดเสียง A Blues ประกอบด้วยโน้ต: A, C, D, Eb, E, G

A - C - D - Eb - E - G - A

หรือในบรรทัด 5 เส้น:

E|-------------------------|-------------------------|
B|-------------------------|-------------------------|
G|-------------------------|---2---3-----------------|
D|---------0---2---3-------|-------------------------|
A|---0---2-----------------|-------------------------|
E|-------------------------|-------------------------|

บันไดเสียงบลูส์เป็นที่นิยมใช้ในดนตรีบลูส์ ร็อค และแจ๊ส ช่วยให้การเล่นมีความสนุกสนานและสร้างสรรค์

บันไดเสียงโหมด (Modes)

โหมดเป็นบันไดเสียงที่แตกต่างจากบันไดเสียงเมเจอร์และไมเนอร์ แต่ละโหมดมีลักษณะและความรู้สึกเฉพาะตัว โดยมีโหมดหลัก 7 แบบ ดังนี้:

  1. Ionian: โหมดเมเจอร์ทั่วไป (C – D – E – F – G – A – B – C)
  2. Dorian: โหมดไมเนอร์ที่มีขั้นที่ 6 เป็นโทน (D – E – F – G – A – B – C – D)
  3. Phrygian: โหมดไมเนอร์ที่มีขั้นที่ 2 เป็นเซมิ-โทน (E – F – G – A – B – C – D – E)
  4. Lydian: โหมดเมเจอร์ที่มีขั้นที่ 4 เป็นโทน (F – G – A – B – C – D – E – F)
  5. Mixolydian: โหมดเมเจอร์ที่มีขั้นที่ 7 เป็นเซมิ-โทน (G – A – B – C – D – E – F – G)
  6. Aeolian: โหมดไมเนอร์ทั่วไป (A – B – C – D – E – F – G – A)
  7. Locrian: โหมดไมเนอร์ที่มีขั้นที่ 2 และ 5 เป็นเซมิ-โทน (B – C – D – E – F – G – A – B)

การใช้โหมดต่างๆ สามารถทำให้ดนตรีมีสีสันและความหลากหลายมากขึ้น นักดนตรีสามารถนำโหมดไปประยุกต์ใช้ในการสร้างเมโลดี้และอิมโพรไวส์

สรุป

การรู้และเข้าใจบันไดเสียงเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างและเล่นดนตรี ไม่ว่าจะเป็นบันไดเสียงเมเจอร์ที่สดใส ไมเนอร์ที่ลึกลับ เพนทาโทนิคที่ใช้ง่าย บลูส์ที่สนุกสนาน หรือโหมดที่หลากหลาย การฝึกฝนและทดลองเล่นบันไดเสียงต่างๆ จะช่วยให้นักดนตรีพัฒนาทักษะและความสามารถในการสร้างสรรค์ดนตรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเสริมสร้างความรู้ทางดนตรีให้กับทุกท่าน

เอกสารอ้างอิง

  1. Toole, F. E. (2017). Sound Reproduction: The Acoustics and Psychoacoustics of Loudspeakers and Rooms. Focal Press.
  2. Everest, F. A., & Pohlmann, K. C. (2015). Master Handbook of Acoustics. McGraw-Hill Education.
  3. Ballou, G. M. (Ed.). (2015). Handbook for Sound Engineers. Focal Press.
  4. Newell, P. (2017). Recording Studio Design. Focal Press.
  5. Self, D. (2015). Small Signal Audio Design. Focal Press.
  6. Watkinson, J. (2018). The Art of Digital Audio. Focal Press.
  7. Davis, D., & Davis, C. (2014). Sound System Engineering. Focal Press.
  8. Rumsey, F., & McCormick, T. (2014). Sound and Recording: Applications and Theory. Focal Press.
  9. Holman, T. (2014). Surround Sound: Up and Running. Focal Press.
  10. Eargle, J. (2013). The Microphone Book: From Mono to Stereo to Surround – A Guide to Microphone Design and Application. Focal Press.
  11. AES Standards Committee. (2015). AES Standard method for measurements of digital audio equipment. Audio Engineering Society.
  12. IEC 60268-5:2003+AMD1:2007 CSV. (2007). Sound system equipment – Part 5: Loudspeakers. International Electrotechnical Commission.
  13. Bech, S., & Zacharov, N. (2018). Perceptual Audio Evaluation – Theory, Method and Application. Wiley.
  14. Mathews, M. V. (2016). Digital Signal Processing. Springer.
  15. Reiss, J. D., & McPherson, A. P. (2014). Audio Effects: Theory, Implementation and Application. CRC Press.