
การอัดเสียงในห้องอัดให้ได้ดี ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ ปัจจุบันบางคนอาจคิดว่าเรื่องง่าย แต่จริงๆแล้วมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น เวลา เงิน และเป้าหมาย ที่อาจจะทำให้เราหลงทางและไปไม่ถึงเป้าหมายที่เราวางไว้
5 สิ่งที่ช่วยคุณในการเตรียมความพร้อมในการอัดเสียงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดดังนี้
1. การลองหา Key และ Tempo ที่เหมาะสมกับเพลง
หลายวงจะมีเพลงที่มี Key และ Tempo คล้ายๆกัน การลองเปลี่ยนมันดู จะมีผลค่อนข้างมากกับฟีลของเพลง และอาจดีกับส่วนประกอบบางอย่างของเพลง
การเลือก Key และ Tempo นั้นจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับทั้งในส่วนของตัวเพลงเองและการเล่นของนักดนตรี โดยเมื่อเราเลือกได้ถูกต้อง นอกจากมันจะส่งผล ทำให้เพลงดีขึ้นอยากเห็นได้ชัด แต่เวลาอัดเสียงจริง นักดนตรีหรือตัวเราเองจะไม่รู้สึกเกร็งและอัดออกมาได้เป็นธรรมชาติที่สุด และยังได้ฟีลมากขึ้นอีกด้วย
2. Demo ต้องสมบูรณ์ที่สุด
การที่นักดนตรีทำ Demo ก็เหมือนกับการที่เรากำลังจะสร้างบ้าน ซึ่งจะต้องมีภาพจำลอง และแบบแผนที่ชัดเจนก่อนการก่อสร้างจริง เพื่อให้ได้อย่างที่เราต้องการมากที่สุด
สิ่งในขั้นตอนนี้ คุณสามารถทดลองสิ่งต่างๆได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกังวลถึงเวลา ค่าเช่าห้องอัด หรือสิ่งที่จะมากดดันและรบกวนเหมือนกับในสตูดิโออัดเสียง
คุณสามารถลองทำการเปลี่ยน Tempo, Key เพลง หรือแม้กระทั่ง Arrangement ของเพลง ซึ่งบางทีแค่คุณลองเปลี่ยนคอร์ดแค่คอร์ดเดียวก็สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของเพลงในขณะนั้นและสร้างสิ่งใหม่ๆให้กับเพลงได้เหมือนกัน
ซึ่ง ศิลปินดังๆที่มีชื่อเสียงต่างรับรู้ถึงความสำคัญของการทำ Demo อย่างเช่น The Beatles ก็ทำ Demo ตลอดเวลา ซึ่งมันจะมีเพลงของเค้าในหลายๆเวอร์ชั่นซึ่งเป็น Demo ให้เราเห็นๆกันอยู่บนอินเตอร์เน็ท ซึ่งมีเพียงเวอร์ชั่นเดียวเท่านั้นที่ถูกทำปล่อยออกมาจริง ซึ่งทำให้เห็นการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของเพลงของพวกเค้า
การทำ Demo ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเสมอไป คุณสามารถใช้แค่ไมโครโฟนตัวเดียวขณะทำการซ้อม แล้วค่อยมารีวิวดูอีกวันก็ยังได้
สิ่งสำคัญ การทำ Demo จะทำให้คุณเห็น “ภาพรวม”ของเพลงต่างๆได้ชัดเจนขึ้น ทำให้รู้ว่าอะไรดี และไม่ดี ทำให้เราวิเคราะห์และพัฒนาเพลงให้สมบูรณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
3. เลือกสิ่งที่สำคัญ
ในเพลงแต่ละเพลงย่อมมีเรื่องราวที่จะถ่ายทอดออกมาแตกต่างกัน
เพลงที่พร่ามัวหรือไม่ชัดเจนจะทำให้คนฟังอาจดูงงๆไปด้วย ให้เราเลือกว่าแต่ละส่วนของเพลง อะไรบ้างที่เป็นจุดเด่นและเสียงสำคัญ
บางครั้งอาจตัดสินได้ยากว่าส่วนไหนที่ยังไม่ชัดเจน วิธีที่ช่วยได้คือการซ้อมในหลายๆรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ซ้อมแค่ส่วนของดนตรีโดยไม่มีเสียงร้อง เพื่อดูว่าในส่วนของดนตรีส่วนไหนที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง
4. เรียนรู้จังหวะและการดำเนินเรื่อง
ลองเปิดเพลงที่เราชอบในระดับความดังที่เบาดู เมื่อเราฟังเพลงในระดับความดังที่เบาเราจะรับรู้ได้ว่าเสียงไหนคือเสียงที่สำคัญสำหรับเพลงนั้น โดยเสียงที่ไม่สำคัญจะหลบออกไปอยู่ข้างหลัง
แต่อย่างไรก็ตาม เสียงที่สำคัญ อาจจะเปลี่ยนไปตามการดำเนินเรื่องของเพลง สับเปลี่ยนไประหว่าง เสียงร้องกับเสียงเครื่องดนตรี
ตัวอย่างเช่นท่อน Verse อาจจะดูเรียบๆ โดยมีแค่กีต้าร์กับร้อง แต่พอท่อน Hook จะมีดนตรีอื่นๆเพิ่มขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าสนใจและทำให้เพลงมี Movement และ Impact ที่มากขึ้น
เมื่อเรามีไอเดียและแผนงานที่ชัดเจน ทำให้คุณสามารถช่วยให้คุณทำงานในห้องอัดในง่าย และสนุกมากขึ้น
5. ลองจ้าง Producer มาช่วยคุณดู
การอัดเสียงที่บ้านเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายในปัจจุบัน ทำให้เรามีอิสระ และปราศจากแรงกดดัน ทำให้เราสร้างสรรค์ Demo ได้ดียิ่งขึ้น แต่มันก็มีเหตุผลว่าทำไมนักบินจึงไม่มาเสริฟอาหารให้เราขณะเครื่องบินอยู่ นั่นก็เพราะว่าการแบ่งหน้าที่และทำในสิ่งที่แต่ละคนถนัด งานที่ทำออกมาจะออกมาได้ดีกว่าการที่คนๆเดียวทำหลายอย่างพร้อมกัน ดังนั้นการที่ให้คนที่มีประสบการ์ณสูงมาช่วยดูแลสิ่งที่เราไม่ถนัด มันก็ย่อมจะดีกว่า
แน่นอนว่าเครื่องมืออุปกรณ์อัดเสียงใน Home studio ปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงมากเมื่อเทียบกับเมื่อสมัยก่อนที่ The Beatles เคยใช้. แต่แทบจะน้อยคนนักที่ทำเพลงออกมาแล้วดีในสมัยนี้
Producer ที่ดีจะทำให้วงดนตรีหรือศิลปิน แสดงศักยภาพออกมาได้ดียิ่งขึ้น ถ้ายิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าทำให้ศิลปินหรือวงนั้นขายได้ และยังทำให้เราได้ความคิดเห็นจากคนกลางที่ไม่เอนเอียงในแต่ละขั้นตอนต่างๆ นอกจากนี้ Producer ยังช่วยเราเป็นคนควบคุมโปรเจ็คทำให้เพลงเราสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ และยังช่วยดึงจิตวิญญาณ และดึงความเป็นตัวคุณออกมาทำให้เพลงมันสมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั่นเอง
❤️Commentจากผู้เรียนกับเรา :https://goo.gl/nCQrdU
#คอร์สเรียนทำเพลงออนไลน์สำหรับมือใหม่ (ใช้ได้ทั้ง Logic Pro & Cubase)
M.R.G.1อัดเสียงที่บ้านได้แบบมืออาชีพใน 10 วัน
https://facebook.com/commerce/products/1082990461773898/
?3,500.-฿
M.R.G.2 #คอร์สAbletonLive9สร้างเพลงElectronicในสไตล์ของคุณ (สามารถเรียนได้ทั้งมือใหม่ที่เริ่มจากศูนย์จนถึงมือเก่าที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพในตัวเอง)
https://facebook.com/commerce/products/1089942757695349/
? 5,500.-฿
M.R.G.3 #คอร์สFLStudio12สร้างเพลงได้ใน9วัน
(สามารถเรียนได้ทั้งมือใหม่ที่เริ่มจากศูนย์จนถึงมือเก่าที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพในตัวเอง)
https://facebook.com/commerce/products/2148524355221595/
?2,500.-฿
M.R.G.4 #คอร์สLogicProXเจาะลึกแบบละเอียดยิบทุกฟังก์ชั่น
(สามารถเรียนได้ทั้งมือใหม่ที่เริ่มจากศูนย์จนถึงมือเก่าที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพในตัวเอง)
https://facebook.com/commerce/products/1458398944187816/
?4,200.-฿
M.R.G.5 #คอร์สMixingเจาะลึกจบหลักสูตรในคอร์สเดียว
https://facebook.com/commerce/products/1163751163742506
?5,500.-฿
Mr arranger
————————
Paul Mytri Wee
ดู Link ต้นฉบับ : http://www.sonicscoop.com/2017/01/19/5-ways-improve-recordings-even-enter-studio/
———————————————————
✅ ติดตามข่าวสารได้ที่
✅ Line ID : @Mrarranger (มี@ข้างหน้า)
https://line.me/R/ti/p/%40mrarranger
รับผลิตเพลงทุกรูปแบบ
www.mrarranger.com
✅ 094-5653266,0914428924
096-1926592