Share

20 เทคนิคการ Mastering เพลง: วิธีทำให้เพลงของคุณดังกระหึ่ม

26/10/2024

1.เตรียมห้องและอุปกรณ์ให้พร้อม

การ Mastering ที่มีคุณภาพเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะสม

💡 เทคนิค: วางมอนิเตอร์ให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 30 ซม. และทำมุม 60 องศากับตำแหน่งที่นั่งฟัง

🌟 ตัวอย่าง: Bob Ludwig ใช้ห้อง Mastering ที่ออกแบบโดย George Augspurger ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอะคูสติก

2.ใช้ Reference Track

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: ADPTR AUDIO Metric AB

💡 เทคนิค: ใช้ Pink Noise เป็นตัวอ้างอิงเพื่อปรับBalanceความถี่

🌟 ตัวอย่าง: Greg Calbi ใช้เพลงที่ชนะรางวัล Grammy เป็น Reference Track เสมอ

3.ตรวจสอบ Mix ก่อน Mastering

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: iZotope Insight 2

💡 เทคนิค: ใช้ Mid/Side EQ เพื่อแก้ไขปัญหาความถี่เฉพาะในส่วนกลางหรือด้านข้างของสเตอริโอ

🌟 ตัวอย่าง: Emily Lazar ใช้เทคนิคนี้ในการ Master อัลบั้ม “Colors” ของ Beck

4.ใช้ EQ อย่างระมัดระวัง

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: FabFilter Pro-Q 3

💡 เทคนิค: ใช้ Dynamic EQ เพื่อแก้ไขปัญหาความถี่เฉพาะช่วงที่มีปัญหา

🌟 ตัวอย่าง: Bob Katz ใช้ EQ เพียงเล็กน้อย โดยไม่เกิน 2 dB ในแต่ละย่านความถี่

5.ควบคุมไดนามิกด้วย Compression

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: UAD SSL G-Bus Compressor

💡 เทคนิค: ใช้ Ratio ประมาณ 1.5:1 ถึง 2:1, Attack 30-50 ms, Release 100-300 ms

🌟 ตัวอย่าง: Chris Gehringer ใช้ SSL G-Series Compressor ในการ Master เพลงของ Rihanna

6.เพิ่มความดังด้วย Limiter

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: FabFilter Pro-L 2

💡 เทคนิค: ตั้งค่า Ceiling ที่ -0.3 dB, ตั้งเป้าหมาย Loudness ที่ -14 LUFS สำหรับ Streaming Platforms

🌟 ตัวอย่าง: Mandy Parnell ใช้เทคนิคนี้ในการ Master อัลบั้ม “21” ของ Adele

7.ขยายภาพเสียงด้วย Stereo Widening

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: iZotope Ozone Imager

💡 เทคนิค: ใช้ Multiband Stereo Widening เพื่อขยายความกว้างเฉพาะบางช่วงความถี่

🌟 ตัวอย่าง: Tom Coyne ใช้เทคนิคนี้ในการ Master เพลงของ Taylor Swift

8.ใช้ Multiband Compression

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: FabFilter Pro-MB

💡 เทคนิค: แบ่งย่านความถี่เป็น 3-4 ย่าน และปรับ Compression แต่ละย่านแยกกัน

🌟 ตัวอย่าง: Bernie Grundman ใช้เทคนิคนี้ในการ Master อัลบั้มของ Dr. Dre

9.เพิ่มความอิ่มของเสียงด้วย Saturation

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: FabFilter Saturn 2

💡 เทคนิค: ใช้ Multiband Saturation เพื่อเพิ่มความอิ่มเฉพาะบางช่วงความถี่

🌟 ตัวอย่าง: Vlado Meller ใช้เทคนิคนี้ในการ Master เพลงของ Kanye West

10.ตรวจสอบ Phase

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Waves InPhase

💡 เทคนิค: ใช้ Goniometer เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ของเฟสระหว่างช่องซ้ายและขวา

🌟 ตัวอย่าง: Bob Ludwig ใช้เทคนิคนี้ในการ Master อัลบั้มของ Led Zeppelin

11.ใช้ M/S Processing

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Brainworx bx_digital V3

💡 เทคนิค: ปรับแต่ง EQ และ Dynamics แยกกันระหว่างช่องกลาง (Mid) และช่องข้าง (Side)

🌟 ตัวอย่าง: Andrew Scheps ใช้เทคนิคนี้เพื่อเพิ่มความชัดเจนให้กับเสียงร้องในช่องกลาง

12.ทำ Parallel Processing

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Slate Digital Virtual Mix Rack

💡 เทคนิค: สร้าง Parallel Chain สำหรับ Compression หรือ Saturation แล้วผสมกับสัญญาณต้นฉบับ

🌟 ตัวอย่าง: Chris Lord-Alge ใช้เทคนิคนี้เพื่อเพิ่มพลังให้กับเสียงกลองในหลายๆ เพลงร็อค

13.ใช้ Harmonic Exciter

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Waves Aphex Vintage Aural Exciter

💡 เทคนิค: เพิ่มฮาร์โมนิกส์ให้กับเสียงเพื่อเพิ่มความสดใสและความชัดเจน

🌟 ตัวอย่าง: Tony Maserati ใช้เทคนิคนี้ในการ Master เพลงของ Beyoncé

14.ทำ Dithering

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: iZotope Ozone 9 Advanced

💡 เทคนิค: ใช้ Dithering เมื่อลดบิทเรทของไฟล์ (เช่น จาก 24-bit เป็น 16-bit)

🌟 ตัวอย่าง: Bob Katz เน้นย้ำความสำคัญของการทำ Dithering อย่างถูกต้องในหนังสือของเขา

15.ใช้ Analog Emulation

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Universal Audio Ampex ATR-102

💡 เทคนิค: ใช้ Analog Emulation เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและคาแรคเตอร์ให้กับเสียง

🌟 ตัวอย่าง: Manny Marroquin ใช้เทคนิคนี้ในการ Master เพลงของ John Mayer

16.ทำ Loudness Normalization

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Loudness Penalty

💡 เทคนิค: ปรับระดับความดังให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่จะเผยแพร่

🌟 ตัวอย่าง: Ian Shepherd เป็นผู้ริเริ่ม Dynamic Range Day เพื่อส่งเสริมการ Master ที่รักษาไดนามิกเรนจ์

17.ใช้ Linear Phase EQ

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: FabFilter Pro-Q 3

💡 เทคนิค: ใช้ Linear Phase EQ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Phase Shift ในย่านความถี่ต่ำ

🌟 ตัวอย่าง: Dave Pensado ใช้เทคนิคนี้ในการ Master เพลงของ Michael Jackson

18.ทำ Stem Mastering

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: iZotope Ozone 9 Advanced

💡 เทคนิค: แยก Master ออกเป็นหลาย Stem (เช่น เบส, กลอง, เสียงร้อง) แล้ว Master แต่ละ Stem แยกกัน

🌟 ตัวอย่าง: Luca Pretolesi ใช้เทคนิคนี้ในการ Master เพลง EDM หลายเพลง

19.ใช้ Adaptive Limiter

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Pro-L 2

💡 เทคนิค: ใช้ Adaptive Limiter ที่ปรับ Attack และ Release อัตโนมัติตามเนื้อหาของเพลง

🌟 ตัวอย่าง: Serban Ghenea ใช้เทคนิคนี้ในการ Master เพลงของ Bruno Mars

20.ทำ A/B Testing อย่างสม่ำเสมอ

🔌 ปลั๊กอินแนะนำ: Sample Magic Magic AB

💡 เทคนิค: เปรียบเทียบเสียงก่อนและหลัง Mastering อย่างสม่ำเสมอ

🌟 ตัวอย่าง: Greg Calbi ใช้เทคนิคนี้ในทุกขั้นตอนของการ Master เพื่อให้แน่ใจว่าการปรับแต่งทำให้เพลงดีขึ้นจริง

การ Mastering เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝน 🎓 หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการ Mix และ Mastering แบบมืออาชีพ เราขอแนะนำคอร์ส Music Producer Boot Camp ของเรา

🎶 สนใจเรียนทำเพลงด้วย Suno AI แบบจัดเต็ม ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/share/v/wbWr9arPzqubus3L/

📚 คอร์สเรียนอื่นๆ สามารถดูได้ที่ https://mrarranger.com/

🏋️‍♂️ คอร์ส Music Producer Bootcamp: https://academy.mrarranger.com/home

📣 ติดตามข่าวสารและเทคนิคการทำเพลงเพิ่มเติมได้ที่ Page MrArranger: https://www.facebook.com/mrarranger

—————————-
ติดต่อสอบถาม
-เรียนทำเพลง คอร์สเรียนออนไลน์, คอร์สเรียนเจอตัว
mrarranger .com
ปรึกษาฟรี 📲 LineOA : @arranger
– จ้างทำเพลง ผลิตเพลงทุกรูปแบบ
📲 LineOA : @admin
📞096-1926592, 0914428924
-จ้างงานโฆษณา งานรีวิว
📲 LineOA : @arranger
📞096-1926592, 0914428924