Share

5 เคล็ดลับลับ EQ & Compression ที่โปรดิวเซอร์มือใหม่ต้องรู้! ??️

22/03/2024

EQ และ Compression เป็น 2 เครื่องมือสำคัญที่โปรดิวเซอร์เพลงทุกคนต้องรู้จักและใช้เป็น แต่หลายคนอาจยังสับสนวิธีใช้ที่ถูกต้อง วันนี้เรามี 5 เคล็ดลับดีๆ มาฝากครับ

  1. ตั้งค่า EQ ตามโน้ตเพลง (Musical EQ) หลาย Software EQ เช่น FabFilter Pro-Q หรือ EQ Eight ของ Ableton สามารถตั้งค่า EQ Band ตามโน้ตดนตรีได้ ซึ่งมีประโยชน์มากโดยเฉพาะการเพิ่ม Fundamental Frequency ของเสียง เช่น ถ้าเพลงคุณอยู่ในคีย์ A การเพิ่ม Frequency ที่ 55 Hz (โน้ต A ต่ำสุด) จะช่วยให้เสียงฟังดู Smooth ขึ้น หรือถ้า Frequency ทับซ้อนกัน ก็ลองตัดออกบางส่วน แม้ EQ ของคุณจะไม่แสดงโน้ต ก็หาตาราง Frequency ของโน้ตได้จากในเน็ตครับ แนะนำให้ศึกษาเรื่อง Frequency Response ของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดเพิ่มเติมด้วย
  2. เทคนิค Serial Compression สำหรับเสียงที่มี Dynamic Range สูงมาก เช่น กีตาร์หรือ Vocal ที่มีทั้งช่วงที่ดังมากและเบามาก ลองใช้เทคนิค Serial Compression โดยใช้ Compressor หลายตัวเรียงกัน เพื่อแยกจัดการกับปัญหาต่างๆ ตัวอย่างเช่น:
  • Compressor ตัวแรก (Fast) เน้นกระชับส่วนที่ดังมาก (Transient/Peak) โดยตั้งค่า Ratio/Threshold สูงๆ
  • ตัวที่สอง (Character) ใช้ปรับแต่งเสียงให้ Smooth ขึ้น มักใช้ Analog Compressor ตั้ง Attack/Release ช้า Ratio/Threshold ต่ำ เทคนิคนี้ช่วยคุมเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังคงรักษารายละเอียดของเสียงไว้ได้ดี
  1. Multiband Compression ช่วยได้ Multiband Compressor เป็นเครื่องมือพื้นฐานใน DAW ส่วนใหญ่ มันเหมาะสำหรับปรับ Audio ที่มีความถี่หลากหลาย เช่น มิกซ์เพลงทั้งเพลง, กลองชุด หรือ Synth ที่มีทั้ง High/Low Frequency โดยแบ่ง Frequency Range เป็นส่วนๆ เพื่อ Compress/ปรับแยกกันไป โดยไม่กระทบย่านอื่น ตัวอย่างการใช้งาน ได้แก่:
  • ลด High Frequency จาก Transient ของกลองให้นุ่มขึ้น แต่ไม่กระทบ Punch ของ Kick/Snare
  • เพิ่มความชัดเจน ขัดเกลาเสียงร้องที่ Mid-High โดยไม่เสีย Dynamic Range
  • ปรับ Balance ใน Mix โดยแยกเป็น 3-4 Band เช่น Sub, Low Mid, High Mid, High การเข้าใจหลักการของ Crossover Frequency จะทำให้ใช้ Multiband ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  1. รู้จัก Upward Compression Compressor ปกติทำงานแบบ Downward คือลดเสียงที่ดังเกิน Threshold ให้เบาลง ส่วน Upward Compressor จะทำตรงข้าม คือดันเสียงที่ค่อยเกินไปให้ดังขึ้น เป็นการลด Dynamic Range เช่นกัน แต่ในอีกวิธีหนึ่ง เทคนิคนี้มักใช้ฟื้นฟูรายละเอียดเสียงจาก Recording ที่มีคุณภาพต่ำ หรือเสียงที่ค่อยเกินไป นอกจากนี้ยังมีการ Expand เสียง โดยเพิ่ม Dynamic Range ด้วย ซึ่งก็มีทั้ง Upward (เพิ่มเสียงดัง) และ Downward (ลดเสียงเบา) เช่นกัน เรื่องนี้ต้องลองปรับเล่นดูเยอะๆ จะเข้าใจมากขึ้นครับ
  2. แยกปรับ Transient และ Tonal เครื่องมือ EQ รุ่นใหม่ๆ อย่างเช่น Eventide SplitEQ หรือ Bitwig Transient Split สามารถแยกเสียงเป็นส่วน Transient (Percussive, Atonal) และ Tonal (มี Pitch ชัดเจน) แล้วปรับแยกกันได้ เช่น ลด Transient ที่มากไปทำให้น้อยลงโดยไม่กระทบส่วน Tonal เพิ่ม Stereo Width ให้ Tonal ส่วน Transient ยังคงอยู่กลาง หรือแม้แต่ใส่ Effect คนละแบบให้แต่ละส่วนได้ เป็นการเปิดโลกใหม่ให้โปรดิวเซอร์ปรับแต่งเสียงแบบลงลึกถึงจุดเล็กๆ มากขึ้นนั่นเอง

สรุป EQ และ Compression เป็นเครื่องไม้เครื่องมือพื้นฐานที่สำคัญมาก สำหรับโปรดิวเซอร์ทุกคนต้องใช้เป็น แต่การใช้งานให้ได้ผลดี ต้องอาศัยความเข้าใจหลักการ รู้จักเครื่องมือที่หลากหลาย และต้องหมั่นลองผิดลองถูกบ่อยๆ รวมถึงใช้หูฟังอย่างพิถีพิถัน การ Reference กับเพลงมาตรฐานที่เราชอบ ก็เป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาฝีมือครับ หวังว่าเคล็ดลับทั้ง 5 ข้อนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ โปรดิวเซอร์ไม่มากก็น้อยนะครับ

แหล่งอ้างอิง: