การทำเพลงด้วยเครื่องดนตรีที่ไม่เหมือนใครเป็นหนึ่งในวิธีที่ศิลปินสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นและน่าสนใจได้ การใช้เครื่องดนตรีที่ไม่ธรรมดาหรือการดัดแปลงเครื่องดนตรีเดิมเพื่อสร้างเสียงใหม่ ๆ เป็นวิธีที่นักดนตรีและผู้ผลิตเพลงสามารถนำเสนอเสียงที่แตกต่างและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับงานของตนเอง
ตัวอย่างของเครื่องดนตรีที่ไม่เหมือนใคร
Theremin
Theremin เป็นเครื่องดนตรีที่มีความพิเศษเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกในโลกที่สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องสัมผัส ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 โดยนักฟิสิกส์ชาวรัสเซียชื่อ Leon Theremin เสียงของ Theremin มีลักษณะคล้ายเสียงร้องของมนุษย์ผสมกับเสียงไวโอลิน ทำให้มันถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์และสยองขวัญหลายเรื่อง
Hang Drum
Hang Drum หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Handpan เป็นเครื่องดนตรีที่ค่อนข้างใหม่ ถูกสร้างขึ้นในปี 2000 โดยชาวสวิส Felix Rohner และ Sabina Schärer เสียงของมันมีความนุ่มนวล ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสงบ จึงมักถูกนำไปใช้ในการทำสมาธิและการบำบัดด้วยดนตรี
Didgeridoo
Didgeridoo เป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุมากกว่า 1,500 ปี นอกจากจะใช้ในพิธีกรรมและการแสดงแล้ว ยังมีการศึกษาพบว่าการเล่น Didgeridoo สามารถช่วยรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้
Waterphone
Waterphone ถูกประดิษฐ์ขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 โดย Richard Waters เสียงของมันมีความลึกลับและน่าพิศวง จึงมักถูกใช้ในการสร้างเสียงประกอบภาพยนตร์แนวระทึกขวัญและสยองขวัญ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Poltergeist และ Matrix
Glass Harmonica
Glass Harmonica ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย Benjamin Franklin ในปี 1761 เสียงของมันมีความไพเราะและเป็นเอกลักษณ์มาก จนเชื่อกันว่าสามารถทำให้ผู้ฟังเกิดอาการประสาทหลอนได้ ด้วยเหตุนี้ จึงเคยมีการห้ามเล่นในบางประเทศในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 18
เครื่องดนตรีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของมนุษย์ในการสร้างสรรค์เสียงดนตรี แต่ละชิ้นมีประวัติความเป็นมาและเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้พวกมันมีเสน่ห์และน่าสนใจเป็นพิเศษในวงการดนตรี
เทคนิคการใช้เครื่องดนตรีแบบไม่เหมือนใคร
การสร้างสรรค์เสียงใหม่: ศิลปะแห่งการดัดแปลงเครื่องดนตรี
ในโลกของดนตรี การค้นหาเสียงที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นเป็นสิ่งที่นักดนตรีแสวงหามาโดยตลอด ลองมาดูวิธีการที่น่าสนใจในการสร้างสรรค์เสียงเหล่านี้กัน
1. การปรับแต่งเครื่องดนตรี: เมื่อธรรมดาไม่พอ
- กีต้าร์แห่งความเป็นไปได้: ลองนึกภาพกีต้าร์ที่ส่งเสียงแปลกประหลาดแต่ไพเราะ นั่นคือผลลัพธ์จากการ “Open Tuning” ที่ช่วยให้นักดนตรีสร้างคอร์ดที่เป็นไปไม่ได้ในการตั้งสายแบบปกติ หรือจะเป็นเสียงที่ลื่นไหลราวกับน้ำจากเทคนิค Slide Guitar ที่ทำให้บลูส์และคันทรีมีเสน่ห์เฉพาะตัว
- เปียโนที่ไม่ธรรมดา: John Cage นักดนตรีผู้กล้า ได้แปลงโฉมเปียโนธรรมดาให้กลายเป็นเครื่องดนตรีที่ให้เสียงแปลกตาด้วยการใส่วัสดุต่างๆ เข้าไประหว่างสาย ทำให้เปียโนกลายเป็นเครื่องเพอร์คัชชั่นขนาดยักษ์ที่ให้เสียงน่าทึ่ง
2. มหัศจรรย์แห่งเทคโนโลยี: เอฟเฟกต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- สร้างมิติให้เสียง: Reverb และ Delay ไม่ใช่แค่เอฟเฟกต์ธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือวิเศษที่ช่วยเพิ่มความลึกและมิติให้กับเสียง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่หรือท่ามกลางหุบเขา
- เสียงที่เต้นระบำ: Chorus, Flanger และ Phaser เป็นเหมือนนักเต้นที่ทำให้เสียงมีชีวิตชีวา เคลื่อนไหว และน่าสนใจ สร้างเอกลักษณ์ให้กับดนตรีร็อค ฟังก์ และอิเล็กทรอนิกส์
- จินตนาการไร้ขีดจำกัด: Synthesizers และ Samplers เปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด ให้นักดนตรีสร้างเสียงที่ไม่เคยมีมาก่อนหรือนำเสียงจากทุกที่มาใช้ในงานของตน
3. การผสมผสานวัฒนธรรม: เมื่อตะวันออกพบตะวันตก
- เสน่ห์แห่งบ้านเกิด: การนำเครื่องดนตรีพื้นบ้านอย่างซอ ระนาด หรือขลุ่ย มาผสมผสานกับกีต้าร์หรือเปียโน ไม่เพียงสร้างเสียงที่แปลกใหม่ แต่ยังเป็นการเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรมผ่านดนตรี
- โลกในบทเพลง: จินตนาการถึงเสียงซิตาร์อินเดียที่บรรเลงคู่กับแซกโซโฟนอเมริกัน หรือเครื่องสายจีนที่ผสานกับจังหวะแอฟริกัน นี่คือการสร้างสะพานเชื่อมวัฒนธรรมผ่านภาษาสากลอย่างดนตรี
ศิลปินที่ใช้เครื่องดนตรีแบบไม่เหมือนใคร
John Cage
เทคนิคที่ใช้: Prepared Piano
John Cage ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในการใช้เทคนิค Prepared Piano ซึ่งเป็นการปรับแต่งเปียโนโดยการใส่วัสดุต่าง ๆ เช่น สกรู, ยาง, ผ้า หรือสิ่งของเล็ก ๆ เข้าไปในสายเปียโนหรือค้อนของเปียโน เทคนิคนี้ทำให้เสียงของเปียโนเปลี่ยนไปเป็นเสียงที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร เปียโนที่ถูกเตรียมในลักษณะนี้สามารถสร้างเสียงที่หลากหลายและไม่สามารถทำได้ด้วยเปียโนปกติ ผลงานที่มีชื่อเสียงของ Cage ในเทคนิคนี้คือ “Sonatas and Interludes” ที่ใช้ Prepared Piano ในการสร้างเสียงที่ซับซ้อนและหลากหลาย
Jimi Hendrix
เทคนิคที่ใช้: การปรับแต่งสายกีต้าร์และเอฟเฟกต์อิเล็กทรอนิกส์
Jimi Hendrix เป็นนักกีต้าร์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้บุกเบิกการใช้เอฟเฟกต์อิเล็กทรอนิกส์ในการสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ เขาใช้การปรับแต่งสายกีต้าร์ เช่น การตั้งสายแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างเสียงที่แตกต่าง และใช้เอฟเฟกต์ต่าง ๆ เช่น Wah Pedal เพื่อสร้างเสียง “wah-wah” ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ หรือ Fuzz เพื่อเพิ่มความหนาและแตกของเสียงกีต้าร์ ผลงานที่มีชื่อเสียงของเขาคือเพลง “Voodoo Child (Slight Return)” ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้เอฟเฟกต์และการปรับแต่งสายกีต้าร์อย่างชัดเจน
Radiohead
เทคนิคที่ใช้: การผสมผสานเสียงจากเครื่องดนตรีดั้งเดิมกับเสียงอิเล็กทรอนิกส์
Radiohead เป็นวงดนตรีที่ได้รับการยอมรับในการผสมผสานเสียงจากเครื่องดนตรีดั้งเดิมกับเสียงอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เครื่องดนตรีเช่นกีต้าร์ เปียโน และเครื่องดนตรีดั้งเดิมอื่น ๆ ร่วมกับเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เช่น Synthesizers และ Samplers การผสมผสานนี้สร้างเสียงที่ไม่เหมือนใครและสร้างบรรยากาศที่หลากหลายในเพลง ผลงานที่มีชื่อเสียงของพวกเขาคืออัลบั้ม “Kid A” ที่ใช้เทคนิคการผสมผสานเสียงอิเล็กทรอนิกส์กับเสียงดั้งเดิมอย่างลงตัว เช่นในเพลง “Everything in Its Right Place” ที่มีการใช้ Synthesizers สร้างบรรยากาศที่ลึกลับและน่าทึ่ง
ประโยชน์ของการใช้เครื่องดนตรีแบบไม่เหมือนใคร
การสร้างความโดดเด่น
- เสียงที่ไม่เหมือนใคร: การใช้เครื่องดนตรีที่ไม่ธรรมดาหรือการปรับแต่งเครื่องดนตรีเพื่อให้มีเสียงที่แตกต่าง จะช่วยให้เพลงของศิลปินโดดเด่นและจดจำได้ง่ายยิ่งขึ้น เสียงที่ไม่เหมือนใครสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ฟังและทำให้เพลงนั้นเป็นที่น่าจดจำ
- การสร้างแบรนด์ดนตรี: ศิลปินที่ใช้เสียงหรือเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์มักจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟัง ทำให้ผู้ฟังสามารถระบุและจดจำศิลปินหรือวงดนตรีนั้นได้ง่ายขึ้น
การเพิ่มมิติให้กับดนตรี
- ความหลากหลายของเสียง: การใช้เครื่องดนตรีที่ไม่ธรรมดาสามารถเพิ่มความหลากหลายของเสียงในเพลง ทำให้ดนตรีมีความซับซ้อนและน่าสนใจมากขึ้น การเพิ่มมิตินี้สามารถสร้างบรรยากาศที่หลากหลายและทำให้ดนตรีมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- การสร้างอารมณ์และบรรยากาศ: เครื่องดนตรีที่ไม่เหมือนใครสามารถสร้างอารมณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกันในเพลง เช่น การใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศแบบดั้งเดิม หรือการใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยและลึกลับ
การเปิดโอกาสให้กับการทดลอง
- การสำรวจเสียงใหม่ ๆ: การใช้เครื่องดนตรีที่ไม่เหมือนใครเปิดโอกาสให้ศิลปินสามารถทดลองและสำรวจเสียงใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีในดนตรีแบบดั้งเดิม การทดลองนี้สามารถนำไปสู่การค้นพบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ
- การสร้างสรรค์และนวัตกรรม: การทดลองใช้เครื่องดนตรีที่ไม่ธรรมดาสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์และนวัตกรรมในดนตรี ศิลปินสามารถคิดค้นเทคนิคใหม่ ๆ และนำเสนอผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์และทันสมัยมากขึ้น
อ้างอิง
- Wisseloord Academy. (2024). Music Composition: A Journey of Creativity and Expression. Retrieved from Wisseloord Academy
- Wisseloord Academy. (2024). Innovative Sound Creation: Unusual Instruments in Music. Retrieved from Wisseloord Academy – Innovative Sound
- Art of Composing. (2024). How to Compose Music. Retrieved from Art of Composing
- Art of Composing. (2024). Music Theory and Composition. Retrieved from Art of Composing – Music Theory
- Yellowbrick. (2023). Exploring Unique Musical Instruments in Modern Composition. Retrieved from Yellowbrick – Unique Instruments
- Yellowbrick. (2023). Mastering the Art of Music Composition: Tips and Techniques. Retrieved from Yellowbrick
