Share

Alternative Hip-Hop 101 / 5 ศิลปิน Alternative Hip-Hop ที่โดดเด่น

21/05/2024

เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ (Alternative Hip-Hop) เสนอทางเลือกที่มีสีสันและความคิดสร้างสรรค์จากแนวแร็พกระแสหลัก และยังคงเป็นที่นิยมและได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์มาหลายทศวรรษ


คำนิยามของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ (Alternative Hip-Hop)

เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ หรือแร็พทางเลือก เป็นสไตล์ย่อยของดนตรีฮิพฮอพที่ผสมผสานองค์ประกอบของเพลงฟังก์ เพลงโซล์ เพลงพังก์ และเพลงร็อกทางเลือก Subgenre นี้แตกต่างจากสตาแร็พ หรือเพลงแทร็ป แต่กลับละเลยข้อจำกัดเหล่านั้น เพื่อสร้างสรรค์ผสมผสานเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลาย ศิลปินอย่าง De La Soul และ A Tribe Called Quest ช่วยพัฒนาเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เนื้อร้องที่สนุกสนานแต่คมคาย รวมถึงอิทธิพลจากแนวเพลงต่างๆ ของพวกเขา จึงกลายเป็นแบบอย่างให้กับวงดนตรีและนักแร็พหลายวง

เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพได้รับความนิยมในกระแสหลักในช่วงทศวรรษ 1990 จากวงดนตรีอย่าง ฟูจี แต่ก็เลือนหายไปเมื่อกระแสแกงสตาแร็พเข้มข้นมาแทนที่ ก่อนจะกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้งในช่วงปี2000 ด้วยความสำเร็จของศิลปินอย่าง เอาท์คาสท์ และ คานเย เวสต์ ปัจจุบันเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพยังคงเป็นที่นิยมและมีความคิดสร้างสรรค์อยู่

ประวัติโดยย่อของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ

ที่มาของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ เริ่มต้นในทศวรรษ 1980 และรวมถึงศิลปินที่มีอิทธิพลมากมาย:

• ยุคบุกเบิก: เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ เกิดขึ้นทั้งในชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของสหรัฐอเมริกา East Coast, West Coast ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ศิลปินชาวนิวยอร์กอย่าง A Tribe Called Quest, Jungle Brothers และ KRS-One จาก East Coast และวงจาก West Coast อย่าง The Pharcyde, Souls of Mischief และ Freestyle Fellowship ล้วนได้รับการยอมรับว่าเป็นวงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพรุ่นแรก ๆ พวกเขาสร้างสรรค์แทร็กฮิพฮอพที่มีการเล่นคำอย่างแนบเนียนและคมคาย แทนการโม้โอ้อวด อีกทั้งยังใช้ซาวน์แซมเปิลที่โดดเด่นและหลากหลาย แทนการใช้ทำนองธรรมดา

• ทะลุสู่การเป็นกระแส: ในปี 1989 De La Soul ปล่อยอัลบั้มเดบิวต์ชื่อ 3 Feet High and Rising แม้จะประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ เนื่องจากนำ Subgenre นี้ไปสู่ความนิยมและการยอมรับจากนักวิจารณ์ในระดับชาติ

• ค่อยๆ เลือนหายไป: คลื่นลูกแรกของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพพุ่งขึ้นจุดสูงสุดและตกต่ำลงในช่วงเวลาเดียวกับกระแสเพลงแอลเตอร์นาทีฟร็อกในต้นทศวรรษ 1990 แม้จะผลิตศิลปินที่โดดเด่นออกมามากมาย บางคนอย่าง Arrested Development ที่มีสไตล์บอฮีเมียน และ Fugees ที่มีเสียงร้องแนวโซล์ ประสบความสำเร็จบนชาร์ตและคว้ารางวัลแกรมมี่มาได้ แต่พวกเขาก็ถูกบดบังจากกระแสแกงสตาแร็พสุดเถื่อน และศิลปินอย่าง Snoop Dogg และ Nas ซึ่งเป็นที่นิยมในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม บางศิลปินแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ อย่าง The Roots, Mos Def & Black Star และ Hieroglyphics ก็ยังคงรันเสียงเพลงแนวนี้ให้มีชีวิตอยู่ในวงการอินดี้หรือใต้ดิน

• ฟื้นคืนชีพ: ต้นทศวรรษ 2000 เห็นคลื่นลูกที่สองของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ โดย subgenre นี้ได้แย่งชิงพื้นที่บนชาร์ตเพลงแร็พและป๊อปจำนวนมาก ศิลปินอย่าง Jurassic 5, Talib Kweli และ El-P นำขบวนออกจากวงการใต้ดินด้วยอัลบั้มที่ได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์ ซึ่งเป็นการเตรียมทางให้วง Outkast จากแอตแลนต้าประสบความสำเร็จบนชาร์ตและข้ามฝั่งสู่กระแสหลัก คานเย เวสต์ ก็ประสบความสำเร็จในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เช่นกัน โดยอัลบั้มของเขาในปี 2007 ชื่อ Graduation ขายได้มากกว่าอัลบั้ม Curtis ของแก๊งสตาแร็ปเปอร์ 50 เซนต์ และช่วยให้เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพเป็น subgenre ที่มีศักยภาพทางการค้า

• ยุครุ่นใหม่: เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ ยังคงสร้างสรรค์ศิลปินน่าตื่นเต้นที่ผลักดันขอบเขตทางศิลปะของ subgenre นี้ เคนดริก ลามาร์ ซึ่งมีเพลงแร็พเกี่ยวกับการเมืองที่ได้รับรางวัลแกรมมี่ถึง 13 รางวัล ในขณะที่ ชิลดิช แกมบิโน่ – AKA ของนักแสดงชื่อโดนอลด์ โกลเวอร์ – แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ศิลปินแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ ที่น่าสนใจรายอื่นๆ ได้แก่ Aesop Rock, แร็ปเปอร์/นักแสดง คิด คูดี้, รัน เดอะ จูเวลส์ – ที่ร่วมทีมกับ เอล-พี และแร็ปเปอร์คิลเลอร์ ไมค์ – รวมถึงวงบอยแบนด์ฮิพฮอพอย่าง บร๊อคแฮมพ์ตัน

3 ลักษณะสำคัญของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ

มีหลายลักษณะที่นิยามเสียงของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ ดังนี้:

1.อิทธิพลจากแนวเพลงต่างๆ: เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ หาแรงบันดาลใจจากแหล่งดนตรีที่หลากหลาย เบสตี้ บอยส์ เติมเต็มเพลงด้วยซาวด์แซมเปิลและทำนองที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพังก์ เร้กเก้ และฟังก์คลาสสิก ในขณะที่ ฟาโรอาห์ มอนช์ และวง Digable Planets จากบรุคลิน นิวยอร์ก สอดแทรกแจ๊สเข้าไปในแทร็คของพวกเขา ดี ล่า โซล ถือเป็นหนึ่งในวงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพที่มีความหลากหลายมากที่สุด ด้วยการสำรวจป๊อปไซเคเดลิกและอาร์แอนด์บีคลาสสิก พร้อมทั้งแซมเปิลเสียงจอห์นนี่ แคช และฮอลล์ แอนด์ โอเทสในอัลบั้มของพวกเขา

2.เนื้อร้อง: เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ หันเหความสนใจไปจากเรื่องราวบนท้องถนนหนักๆ ที่เต็มไปในแกงสตาแร็พและรูปแบบฮิพฮอพกระแสหลัก เนื้อร้องของพวกเขาสามารถมีทั้งอารมณ์ขันขัน (เพลง “Jenifa Taught Me” ของ De La Soul), ความเจ็บปวด (เพลง “Through the Wire” ของคานเย เวสต์), ความสนุกสนาน (เพลง “Hey Ya!” ของ เอาท์คาสท์) และแม้กระทั่งรู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณและการตระหนักรู้ในตัวเอง (เพลง “This Is America” ของชิลดิช แกมบิโน่) ในเวลาเดียวกัน

3.งานโปรดักชัน: เพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ มีงานโปรดักชันที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์มากกว่าแบบตรงไปตรงมาของแกงสตาฮิพฮอพหรือฮิพฮอพที่เป็นแนวปาร์ตี้ เพลงเหล่านี้มีหลายซาวด์แซมเปิลถูกเชื่อมร้อยเข้าด้วยกันอย่างซับซ้อนและประณีต ในขณะที่จังหวะสามารถเป็นทั้งเสียงดังสนั่นหรือละเมียดละไมอย่างกลองแจ๊ส ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ หลายโปรดิวเซอร์และศิลปินแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ เช่น ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ จาก เดอะ เนปจูนส์ และ เอ็น.อี.อาร์.ดี. กลายเป็นโปรดิวเซอร์ที่ได้รับความนิยมจากศิลปินในกระแสหลัก

มีศิลปินฮิพฮอพที่โดดเด่นมากมาย อาทิเช่น:

1.A Tribe Called Quest: แร็ปเปอร์ Q-Tip, Phife Dawg และ Jarobi White ร่วมกับดีเจ Ali Shaheed Muhammed ก่อตั้งวง A Tribe Called Quest ขึ้นในนิวยอร์กเมื่อปี 1985 พวกเขาผลิตเพลงฮิพฮอพที่ตระหนักถึงสังคม รวมถึงอัลบั้มปี 1991 ชื่อ The Low End Theory ซึ่งแฟนๆ หลายคนถือเป็นอัลบั้มสำคัญของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ A Tribe Called Quest ประกาศแยวงในปี 1998 แต่ก็ได้รวมวงอีกหลายครั้ง

2.Beastie Boys: Beastie Boys เริ่มต้นอาชีพทางดนตรีในฐานะวงปาร์ตี้ร็อกเกอร์ ก่อนจะมาเป็นแร็ปเปอร์เรียบง่ายที่ชื่นชอบการใช้ซาวด์แซมเปิลน่าติดหูและมุขตลก Ad-Rock, MCA และ Mike D พบจังหวะใหม่กับอัลบั้มผิดแปลกชื่อ Paul’s Boutique ในปี 1989 และได้รับแฟนๆ จากทั้งวงการฮิพฮอพและ Alt rock ด้วยแทร็คเพลงฟังก์สนุกๆ จนกระทั่ง MCA เสียชีวิตในปี 2012

3.M.I.A.: แร็ปเปอร์ชาวอังกฤษ-ทมิฬ เอ็ม.ไอ. เอ. เป็นตัวแทนของคลื่นลูกใหม่ของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ ดนตรีของเธอผสมผสานจังหวะและการแร็ปกับองค์ประกอบของเพลงแอลเตอร์นาทีฟ เพลงเต้นรำ และเพลงเวิลด์มิวสิก ซิงเกิลปี 2007 ชื่อ “Paper Planes” ของเธอทะยานสูงถึงอันดับ 4 บนชาร์ตซิงเกิลของบิลบอร์ด ด้วยการผสมผสานระหว่างเพลงพื้นบ้านแอฟริกันและเพลง “Straight to Hell” ของวงเดอะคลาช ในปี 2019 เอ็ม.ไอ.เอ. ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกแห่งบริติชเอ็มไพร์

4.MF Doom: แร็ปเปอร์ชาวอังกฤษ-อเมริกัน MF Doom เป็นวีรบุรุษในหมู่แฟนเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ ผู้ผสมผสานบุคลิกบนเวทีที่บ้าบิ่นกับเนื้อร้องมึนงงและเหนือจริงผ่านหน้ากากสีเงินเพื่อเป็นเกียรติแก่วายร้ายในการ์ตูน เขาร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ Madlib ในการก่อตั้งวงดูโอชื่อ Madvillain สำหรับอัลบั้มที่ได้รับการชื่นชม Madvillainy ในปี 2004 Doom ยังได้ร่วมงานกับดีเจ Danger Mouse, Raekwon และ Ghostface จากวูแทงแคลน, ตลอดจน Damon Albarn จากวงเบลอร์และโกริลลาซ์ ก่อนเสียชีวิตในปี 2020

5.ไทเลอร์, เดอะ คริเอเทอร์: ไทเลอร์ เดอะ คริเอเทอร์ เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะ controversial member ของคอลเล็คทีฟออดด์ ฟิวเจอร์ ก่อนจะมาสานงานเดี่ยวที่มีความหลากหลาย ไทเลอร์แสดงความตั้งใจที่จะคลอดผลงานเดี่ยวเริ่มแรก อย่างอัลบั้ม Goblin ปี 2011 ซึ่งติดท็อปไฟว์บนชาร์ตอัลบั้มของบิลบอร์ด หลังจากนั้นเขาก็สร้างอัลบั้มที่ 4 ชื่อ Flower Boy ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ผลงานชิ้นล่าสุดเปลี่ยนไปมาระหว่างเนื้อหาหนักหน่วงและอารมณ์โศกที่ยังคงให้เขาอยู่ในแถวหน้าของชาร์ต


แหล่งอ้างอิง
บทความทั่วไปเกี่ยวกับเพลงแอลเตอร์นาทีฟ ฮิพฮอพ:
https://www.allmusic.com/style/alternative-rap-ma0000002827
https://www.britannica.com/art/alternative-rap

ประวัติศาสตร์และศิลปินสำคัญของแนวเพลงนี้:
https://www.rollingstone.com/music/music-lists/the-25-greatest-alt-rap-albums-of-all-time-7996/a-tribe-called-quest-the-low-end-theory-1991-16759/
https://www.complex.com/music/alternative-rap-history/

ข้อมูลศิลปินเฉพาะราย:
A Tribe Called Quest:
https://www.biography.com/musician/a-tribe-called-quest
Beastie Boys:
https://www.allmusic.com/artist/beastie-boys-mn0000027306/biography
M.I.A.:
https://pitchfork.com/artists/5200-mia/
MF DOOM:
https://www.rollingstone.com/music/music-news/mf-doom-dead-obituary-1116358/
Tyler, The Creator:
https://www.xxlmag.com/tyler-the-creator-bio-wiki/