การใช้เสียงประสานโดยเทคนิค substitution ถือเป็นหนึ่งกระบวนท่าขั้นสูงของการวางคอร์ดเพลง และมักสร้างความงงงวยให้แก่คนที่พอจะรู้จักคอร์ดหรือสเกลอยู่ไม่น้อย อย่างเช่น คอร์ด D7 ในคีย์ C major หรือคอร์ดยืมในภาษานักดนตรีเรียกกัน ในทางเทคนิคจะเรียกว่า substitution หรือการคิดคอร์ดใหม่แทนจากคอร์ดเดิมที่เคยมีอยู่ ซึ่งเจ้าคอร์ดยืมนี้มันมาจากการสมมุติหรือให้ความสำคัญกับคอร์ดนั้นๆที่เล่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นให้ยาวขึ้น เล่นบนจังหวะตก หรือการใช้เป็นแนวเบสของคอร์ดนั้นๆ
เมื่อเราได้ยินว่าคอร์ดนั้นสำคัญแล้วที่นี้ ก็จะยืมญาติหรือพรรคพวกมาใช้แทน ยกตัวอย่างเช่น คอร์ดห้าของคีย์ C major ก็คือคอร์ด G ญาติๆ ของคอร์ดห้า ก็คือ คอร์ดที่ อยู่ในคีย์ G major นั่นแหละ ส่วนมากญาติสนิทก็คือคอร์ด Dominant ซึ่งแข็งแรงรองลงมาจากคอร์ดหนึ่ง ทำให้เราได้ คอร์ด D7 ซึ่งเป็นคอร์ด ห้าของคอร์ดห้า(G)(V/V)ในคีย์ c major อีกที ถือเป็นรูปแบบของคอร์ดยืมที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด แต่จริงแล้วเราจะยืมคอร์ดอื่นมาก็ได้นะ แต่จะพิจารณาให้โน้ตของคอร์ดยืมเนี่ย ต่างจากโน้ตของคอร์ดในสเกล 1 ถึง 2 ตัวเท่านั้น ถ้าฝีมือยังไม่เข้าขั้นเทพ เพราะไอ้โน้ตที่ต่างกันนี้มันเป็นโน้ตนอกสเกล เล่นไม่ดีวางไม่ถูกที่ก็จะได้ยินเป็นเพี้ยนไปในที่สุด
มาถึงตรงนี้ใครอยากได้คอร์ดอะไร หรือได้คอร์ดที่ชอบแต่ไม่ตรงสเกล หรือคิดเมโลดี้มาแล้วไม่เข้ากับคอร์ดแปลก ก็ลองใช้ตารางที่แอ็ดมินทำมาให้ได้เลย บางทีทำนองที่คุณคิดอาจจะอยู่ในรูปแบบของคอร์ดแทนก็เป็นได้ การใช้เมโลดี้แปลกๆอาจทำให้คนจำเพลงของเราได้ แต่การหาคอร์ดมาใส่ให้ฟังดูเข้ากันนั้นไม่ง่ายครับ ดังนั้นการหาแนวคิดหรือวิธีการมารองรับจะช่วยให้คนอื่นเข้าใจและเรียนรู้สิ่งที่เราทำได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ
