Share

Dynamic Tube และ Overdrive

15/05/2020

Ableton ความแตกต่างระหว่าง Dynamic Tube และ Overdrive

คุณอาจจะกำลังสงสัยว่า Dynamictube และ Overdrive นั้นแตกต่างกันอย่างไร และอันไหนดีกว่า และใช้เพื่ออะไร มาดูความแตกต่างว่าทำไม 2 สิ่งนี้ถึงแตกต่างกัน

(รูป dynamictube)

Dynamic tube คือเอฟเฟคที่จำลองความอิ่มของเสียงจาก Tube ซึ่งเป็นเสียงเฉพาะที่มีใน แอมป์รุ่นเก่า ๆ ที่มีหลอดสุญญากาศนั้นให้ความอุ่นของเสียงและยังทำให้เสียง Smooth อีกด้วย ซึ่งผลของมันจะส่งผลให้กับสัญญาณที่ input เข้าไป ใน Ableton มี 3 Mode คือ A,B และ C แต่ละ Mode จะจำลอหลอดจาก แอมป์ที่ต่างกันซึ่ง Ableton ได้อธิบายความต่างของแต่ละโหมดไว้ว่า

Tube A จะไม่เกิดเสียง Distortion ถ้า Bias set ที่ Low แต่มันจะเกิดต่อเมื่อ สัญญาณ input เข้ามามากเกินไป และให้เสียง Harmonic ที่ Bright ส่วน Tube C จะให้เสียง Distortion ตลอดเวลาให้อารมณ์เหมือนกับ Tube ที่เสื่อมการใช้งาน ส่วน Tube B จะอยู่ระหว่าง Tube A และ C


(รูป overdrive)
Overdrive คือการจำลองมาจากเสียงกีตาร์
เอฟเฟคมันออกแบบเพื่อให้เกิด Overdrive โดยไม่ไปลดไดนามิคของเสียงลง สามารถลองเอาไปใช้กับเสียงเครื่องเคาะก็ได้เช่นกลอง หรือเบส

มันจะมีความ Smooth น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Dynamic Tube แต่มันจะมีความดุดันมากกว่า และ มันยังทำงานแทบจะเท่าเดิม คือ ต่อให้ตั้ง Drive ที่ 0 มันไม่ได้หมายความว่าจะมีเสียง Distortion อยู่ที่ 0 คือต่อให้ปิด Drive ก็ยัง แตก อยู่นั่นเอง

ส่วนปุ่ม Dynamic ใช้กำหนดปริมาญของการ Compress เมื่อ Distortion เพิ่มขึ้น ถ้าตั้งไว้ต่ำแต่เพิ่ม Drive จะทำให้ Compress มากขึ้นตามไปด้วยส่งผลให้ Gain เพิ่มขึ้น แต่ถ้าตั้งที่ สูงจะมีการ Compress ที่น้อยกว่า

และอันไหนจะใช้ยังไงหละ?
Dynamic Tube ส่วนใหญ่จะใช้กับเสียงย่าน Low เพื่อทำให้เสียงมันเต็มและอิ่ม มันดีมากสำหรับ Sub Bass และเสียงต่ำอื่นๆ
ซึ่ง Dynamic Tube จะดีมากถ้าคุณไม่ใช้มันสูงเกินไป ซึ่งในความจริงแล้ว การปรับมันมากเกินไปจะไม่เป็นประโยชน์สำหรับ Dynamic Tube นี้อาจจะขาดความเป็นธรรมชาติของเสียงนั้นไป ซึ่งจุดนี้เป็นความละเอียดอ่อนที่ Overdrive ไม่มี

ถ้าคุณต้องการจะให้เสียงอะไรมีความหนักขึ้น คุณอาจจะใช้ Overdrive เช่น ต้องการเสียง Synth ที่มีความดุดัน สามารถใช้ Overdrive เพิ่มความดุดันได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าการใช้กับกีต้าร์ สำหรับ Ableton Overdrive นี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไรมันก็ใช้งานได้ดี แต่มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกีต้าร์โดยเฉพาะ แนะนำให้ใช้ Plug in เสริมเช่น Guitar Rig จะดีกว่า แต่ถ้าคุณต้องการให้เสียงสังเคราะห์ เช่น Synth มี ความดุดัน ใช้อันนี้จะดีมากครับ

 

“Sound of New Gen”
Mr Arranger

—————————————————-
ติดต่อโฆษณา : 0945653266
.
เพื่อไม่ให้พลาดโพสต์ของเรา ฝากกดติดดาว ⭐️ ให้กับ MrArranger
และติดตามเราผ่านช่องทางอื่นๆ ได้ดังนี้ :
Website : www.mrarranger.com
Twitter : www.twitter.com/mrArrangerTH
YouTube : Mr. Arranger
Instagram: www.instagram.com/mrarrangerthailand

.
#คอร์สเรียนทำเพลงออนไลน์และเจอตัว
?mrarranger.com
?บทความทำเพลง mrarranger.com/blog
?ช่องยูทูป Mr Arranger
?IG : MrarrangerThailand
—————————————

?เข้ากรุ๊ปแบ่งปันความรู้และเทคนิค
?กรุ๊ป Mix & Mastering Thailand https://goo.gl/bU4HSJ
?กรุ๊ป Pro tools User Thailand >> https://bit.ly/2O4yxuL
?กรุ๊ป Ableton Live User Thailand >> https://bit.ly/2NyYd5I
?กรุ๊ป Mr.Arranger Thailand https://bit.ly/2wVkQI6
?กรุ๊ป Cubase User Thailand >> https://goo.gl/tVFcmg
?กรุ๊ป FL Studio User Thailand>> https://goo.gl/XuidjP
?กรุ๊ป Live Soundengineers Thailand>> https://goo.gl/BRm5Zw
?กรุ๊ป แต่งเองเล่นเองนักเลงพอ Byเหนือ เอฟ >> https://goo.gl/GGYac8

ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครที่
Line@ : @arranger

#mrarranger #music #FLstudio #สอนออนไลน์ #คอร์สเรียนออนไลน์ #ทำเพลง #สร้างเพลง #โรงเรียนสอนทำเพลง #AbletonLive #Logic #Cubase #รับผลิตเพลง #อัดร้อง #เพลงโฆษณา #เพลง #รับทำเพลงทุกรูปแบบ #เรียนทำเพลง