วันนี้เราจะมาอัปเดตฟังก์ชั่นใหม่ของ Logic Pro กันเลย
🔥 สรุป 10 ไฮไลต์เด็ด Logic Pro รอบนี้ Update วิ่งนำคู่แข่งไปก่อน 1 ช่วงตัว
ประมาณสะกิดให้รุ้ว่าตรูเริ่มเอา Ai มาใช้แล้วนะเฟ้ยยย เพื่อไม่ให้เสียเกียรติ โรงเรียน Apple วิทยาคม
เดี๋ยวเจ้าอื่นตามมาอีกแน่นอนไม่ต้องห่วง
1.Stem Splitter คือฟีเจอร์ใหม่ใน Logic Pro 11.2 ที่สามารถ แยกเสียงออกจากไฟล์เพลงเดิม ได้อัตโนมัติภายในไม่กี่วินาที
ความสามารถเด คือ แยกเสียง ร้อง / กลอง / เบส / กีตาร์ / เปียโน ออกมาเป็นแทร็ก Stems
-
รอบนี้แยกลึกกว่าเดิม — เสียงกีตาร์กับเปียโนสามารถแยกออกจากกันได้
-
ปรับ Submix ได้: จะเอาเฉพาะ Acapella (เสียงร้องอย่างเดียว), Instrumental, หรือเลือกแค่ 2 ชิ้นผสมกันก็ได้ เช่น ร้อง + เปียโน
2. Flashback Capture: กู้คืนสิ่งที่ลืมอัดได้!
และฟีเจอร์ Flashback Capture ใน Logic Pro 11.2 คือฟีเจอร์สำหรับคนที่ “เล่นดีแล้วแต่ลืมกดอัด”
ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง, MIDI หรือเครื่องดนตรีสด — Logic จะแอบเก็บเสียงนั้นไว้ให้โดยอัตโนมัติ
และเราสามารถกด “เรียกกลับมา” ได้ทันที ถ้าเรายังไม่ได้กด Play หรือ Record ทับมันไปก่อน
วิธีใช้แต่งท่อนฮุกอยู่ดีๆ ไม่ได้กด Record แต่ชอบมาก → Flashback กู้ให้
-
เล่น Synth หรือ Solo MIDI แล้ว Flow มาแบบเทพ → ไม่ต้องเริ่มใหม่
-
ใช้ใน Cycle Mode ได้ด้วย → วน Loop ซ้ำๆแล้วเลือกเอาช็อตที่ชอบได้ทีหลัง
ตัวอย่างเช่น
📌- “แต่งเพลงสดๆ แล้ว Flow มาจากไหนไม่รู้”
นั่งดีดเปียโนใน Logic อยู่ดีๆแล้วได้เมโลดี้เทพแบบไม่ได้ตั้งใจ
แต่ไม่ได้กดอัดไว้เลย คิดว่าหายไปแล้วแน่ ๆ
เพียงแค่กด Flashback → Logic ดึงท่อนนั้นกลับมาให้ได้เลยทันทีทันใจ!
📌 – “เล่นกีตาร์สดใน Session แล้วลูกเทคนั้นดีมากกก”
เล่นผ่าน Interface เข้า Logic โดยไม่ได้อัดไว้ เพราะคิดว่าแค่ลอง
พอเล่นจบปุ๊บ รู้เลยว่าท่อนนั้นดีชิบเป๋ง
👉🏻 กด Flashback → เสียงนั้นกลับมาทั้ง Waveform พร้อมใช้ทันที
📌- “ซ้อมเพลงกับวง แล้วโยนไฟล์มาแยกต่อ”
ใช้ Flashback จับเสียงแบบกึ่ง Live แล้วค่อยไป Split เป็นแทร็กใน Stem Splitter ได้อีกที
→ ได้ทั้งไอเดียสด + Workflow
ข้อควรรู้อีกอย่าง
-
Flashback จะเก็บเทคล่าสุดก่อน Play/Record เท่านั้น
-
ถ้ากด Play ทับไปแล้ว → จะหายไปเลยนะ (เพราะถือว่าเริ่ม Session ใหม่)
-
ไม่กิน RAM/Storage เยอะ เพราะ Logic เก็บแค่ Snapshot ก่อนรอบใหม่
ใครแต่งเพลงแบบอิมโพรไวส์เยอะๆ ฟีเจอร์นี้คือกู้ชีวิตจริงๆ
ไม่ต้องย้อนไปทำใหม่ ไม่ต้องเสียแรง ไม่ต้องเสียใจ… Logic รับจบ
3. Writing Tools + ChatGPT ฝังใน Logic
สำหรับใครที่ใช้งาน ChatGPT อยู่แล้ว จะรู้ว่าเราต้องไปใช้งานที่ ChatGPT โดยตรง
แต่ตอนนี้ Logic Pro ได้เอามาไว้ในตัวโปรแกรม ทำให้ไม่ต้องสลับไปหา ChatGPT — เพราะอยู่ใน Notepad แล้ว
-
ตรวจแกรมม่า / แต่งเนื้อเพลง / เสนอคอร์ดให้ตรง Key
-
ใส่ Prompt ภาษาไทยก็ได้ (ลองมาแล้ว สนุกมาก 555+)
💡 ตัวอย่างเช่น
📌 #1: “แต่งเนื้ออังกฤษแล้วไม่มั่นใจ”
แต่งเนื้อท่อนฮุกภาษาอังกฤษเอง แต่ไม่ชัวร์ว่าแกรมม่าถูกมั้ย
👉🏻 ใช้ Writing Tools ให้ช่วย “Proofread” → ได้เวอร์ชั่นใหม่ที่ฟังลื่นกว่า
แล้วก็ Copy ลง Logic ได้เลย
📌 #2: “มีท่อน A แล้วตัน”
พิมพ์เข้าไปว่า “แต่งท่อน B ให้ต่อจากท่อนนี้แบบเศร้าๆ”
ChatGPT แต่งมาให้แบบเสิร์ฟถึงห้องอัด
ลองเอามาแต่งเสียงร้องต่อได้ทันที ไม่ต้องสลับหน้าจอเลย
📌 # 3: “อยากได้คอร์ดที่ไม่ซ้ำชาวบ้าน”
ลองพิมพ์ว่า “Suggest chord progression for indie-pop verse in C major”
หรือแบบไทยเลยก็ได้ “อยากได้คอร์ดเพลงเศร้าแต่ไม่ต้องซ้ำกับคนอื่น”
AI ช่วยคิดให้ —เอาไปลองเล่นในโปรเจกต์ต่อได้ทันที
📌 # 4: “ใช้ Prompt ภาษาไทยก็ได้นะ”
“ช่วยแต่งท่อนฮุกแนวอกหักแบบ Bodyslam ที่ใช้คำง่ายๆ”
หรือ “หา 3 คำที่ใช้ขึ้นต้นเพลงแนวล่องลอยหน่อย”
บอกเลยว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด สนุกโคตร ไปลองเล่นกันดู
สรุปเลยว่า :
AI ที่ฝังอยู่ใน Logic รอบนี้ไม่ใช่ของเล่น แต่เป็น “ผู้ช่วยแต่งเพลงได้แบบมือโปร”
ไม่ต้องออกจาก DAW — ก็ได้ทั้งคำ คอร์ด และไอเดียใหม่ๆ ไม่มีวันหมดไอเดีย แบบ Real-time
และที่สำคัญ… พูดไทยรู้เรื่องแล้วจ้า
4. Sound Pack ใหม่เจ๋งแบบโหดสัดรัชดา!
Dancefloor Rush แน่น Drum & Bass ดุดันสะใจ ลูปแน่น เสียงกลองคือคมมากแบบ Club-Ready
-
เหมาะกับแนว EDM / Jungle / Rave / Techstep
-
มีทั้ง Kick, Snare, Hi-hat แบบจัดเต็มพร้อมลูป
-
ท่อน Drop มาโหดเหมือนโกรธมิกเซอร์
🎛️ Magnetic Imperfections
เทปวินเทจกลิ่นอนาล็อกแบบจงใจให้ “ดิบ”
-
เสียง Hissing, Wow & Flutter แบบเครื่องอัดเทปยุค 80s
-
ใช้ทำ Lo-fi, Chillhop หรือ Soundtrack ที่อยากให้ฟีล “จำได้แม่นตอนฝนตก”
เอาไปใส่ใน Intro เพลงหรือท่อนเบรกกลางเพลง เหมือนพาเราย้อนยุคได้ทันที
📥 วิธีโหลดง่ายมาก:
-
-
ไปที่ Logic > Sound Library > Download All Available Sounds
-
หรือเปิด Loop Browser แล้วค้นชื่อ Pack ได้เลย
-
5. iPad Version: ของจริง!
-
Apple ไม่ได้แค่นำ Logic มาลง iPad แบบขำๆ
แต่คือ “ยกของจริง” มาใส่ในหน้าจอสัมผัสให้เต็มพิกัด
และในเวอร์ชั่น 2.2 นี้คือ… อัปเกรดแบบ ลืมว่าใช้บนแท็บเล็ตไปเลย
รองรับ MIDI Controller แบบละเอียดสุด
-
ต่อ MIDI Keyboard, Pad, Fader หรือ Controller ได้เต็มฟังก์ชัน
-
แถมยัง Mapping ปุ่ม/โน้ตต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำขึ้น
-
ใช้ได้ทั้งผ่าน USB-C และ Bluetooth MIDI
เหมาะมากกับคนที่ทำ Live Loop หรือโปรดิวซ์นอกสถานที่
Learn MIDI ใหม่: ใช้งานง่ายกว่าเดิม
-
ระบบ Learn Mode ถูกปรับให้ฉลาดขึ้น
-
ไม่ต้องกดหลายขั้นตอน ก็จับการกด MIDI แล้วแมปคำสั่งได้เลย
-
อินเทอร์เฟซใหม่ ลื่นไหล ใช้ง่ายแม้ไม่เคยแตะมาก่อน
มือใหม่หัด Mapping จะร้องว่า “ของจริง” แบบไม่ต้องเปิดคู่มือ
ต่อ Hardware แล้วลื่นปื้ดแบบ Mac
-
ต่อ interface / external synth / audio gear ผ่าน USB Hub ได้ทันที
-
ใช้พลังชิป M1 ขึ้นไป ทำให้ไม่มีอาการหน่วง (ใครใช้ iPad Pro ยิ่งโหด!)
-
Project ที่เริ่มใน iPad ย้ายไป Logic บน Mac ได้เนียนกริ๊บ ไม่มีปวดหัวเรื่อง Compatibility
✅ เหมาะกับใคร?
-
สายโปรดิวซ์ที่ ไม่อยากพก MacBook ไปทุกที่
-
มือใหม่ที่อยากเริ่ม Logic แบบประหยัด (เริ่มต้นเพียง $4.99/เดือน)
-
นักดนตรีที่ชอบ Live Performance / jam สดในงานหรือซ้อมวง
ฟีลเหมือนมี “Logic แบบ Full Gear ที่หยิบใส่เป้เดินได้”
ไม่ใช่แค่เวอร์ชั่นเบา แต่คือ “เครื่องมือจริง” ของคนทำเพลงจริงจัง -
6. Undo History เก็บในโปรเจกต์!ย้อนอดีตได้แม่นยำ แม้ปิดเครื่องไปแล้ว
ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้:
“เมื่อวานลองปรับปลั๊กอินไว้ดีมาก…แต่จำไม่ได้ว่าเซ็ตตรงไหนไว้ยังไง”
เปิดโปรเจกต์มาก็เจอแค่สภาพสุดท้าย — ทุกอย่างที่ลองปรับไว้หายไปหมด
แต่ตอนนี้ Logic Pro 11.2 บันทึก Undo History มากับโปรเจกต์โดยตรง!
หมายความว่าไม่ว่าคุณจะปิด Logic ไปกี่วัน
-
จะเปิดเครื่องใหม่กี่รอบ Logic จะ จำ Undo/Redo ของโปรเจกต์นั้นไว้ทั้งหมด
เท่ากับว่าต่อให้คุณง่วงนอนแล้วเผลอ Save ผิด หรือเผลอลบปลั๊กอินออกไป…
วันถัดมายังสามารถ “ย้อนกลับ” ได้เหมือนอยู่ใน Session เดิมเลย
ตัวอย่างเช่น
-
-ลอง EQ เสียงกลองไว้หลายเวอร์ชั่น → วันรุ่งขึ้นอยากกลับไปเทียบเวอร์ชั่นที่ 3
-
แก้เนื้อร้องแล้วอยากเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้า ลบ Track บางอย่างออกไปแล้วนึกเสียดายทีหลัง
ในทุกกรณีที่ว่ามา Logic จะเก็บ“ทุกจังหวะการทำงาน”ไว้ให้ เหมือนมีไทม์แมชชีนในโปรเจกต์เลยทีเดียว
7. Search & Select: โปรเจกต์ใหญ่แค่ไหนก็เอาอยู่
-
เคยมั้ย? ทำเพลงทีไร Track เป็นสิบ Region เป็นร้อย หาอะไรแทบไม่เจอ ต้องเลื่อนตาแตก กดผิดอีกต่างหาก…
Logic Pro 11.2 เข้าใจหัวอกสายโปรดิวเซอร์มือหนักแบบเรา เลยอัปฟีเจอร์ Search & Select ให้ “แม่น-เร็ว-ตรงจุด” กว่าเดิมเยอะมากกก
ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
-
ค้นหา Track name แบบพิมพ์ชื่อก็โผล่เลย
-
หา Instrument ตามประเภท / ชื่อ / Plugin
-
เจาะจง Region ที่ชื่อคล้ายกัน / อยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง
-
ใช้ คำค้นเฉพาะบางคำ เช่น “Pad”, “Bridge”, “Vocal Take 3” แล้ว select ได้หมดในคลิกเดียว
ตัวอย่างการใช้งาน
-ทำเพลงประกอบหนัง 7 นาที มี 70 Tracks
อยาก Solo เฉพาะเสียง FX ทั้งหมดที่ชื่อขึ้นต้นว่า “Whoosh”หรือทำ Beat แบบมี Drums หลายเวอร์ชั่น อยากเปิดเฉพาะ Take ที่ชื่อว่า “Alt Snare”
พิมพ์แค่คำที่ต้องการ → Logic จะ Highlight / Select ให้ครบทุกอัน
จากนั้นจะ Mute, Cut, Copy หรือ Bounce ก็ทำได้ง่ายๆ
จุดเด่น
-
ใช้งานได้ทั้งใน Main Window / Mixer / Editor
-
ทำงานกับโปรเจกต์ใหญ่ๆ ได้ไวแบบทันใจจริงๆ
-
ประหยัดเวลา+ลดโอกาสกดผิดแบบรู้สึกได้เลย
สำหรับสายโปรเจกต์ใหญ่ สายทำเพลงซีเรียส หรือแม้แต่คนที่ชอบตั้งชื่อ Track ไว้ละเอียดๆ
ฟีเจอร์นี้ = เทวดาช่วยชีวิต -
8. Dolby Atmos: ปรับได้โคตรเทพ
-
✅ 1. Direct 2.0 Monitoring Mode
— ฟีเจอร์นี้คือทางรอดสำหรับคนที่ไม่ได้มีลำโพง 7.1 หรือหูฟังเทพแพงๆ
Logic จะมิกซ์เสียง Dolby Atmos ให้ จำลองใน Stereo 2.0 ได้แบบสมจริงพูดง่ายๆ: มีแค่หูฟังธรรมดา ก็ “ได้ยินภาพเสียงรอบตัว” แบบใกล้เคียงมาก!
✅ 2. Render Mode ใหม่: Music / Movie แยกกัน
— เดิมทีการมิกซ์ Dolby Atmos ต้องเลือกระหว่างสองแนว
ตอนนี้ Logic ให้คุณเลือก Render Mode ได้เลย ว่าจะเอาสำหรับ:-
Music = เสียงรอบตัว แต่โฟกัสอยู่ที่อารมณ์/ดนตรี
-
Movie = เสียงกระจายจริงจัง เหมือนฉากแอ็กชันในโรงหนัง
ถ้าแต่งเพลงปกติเลือก Music
ถ้าทำงานเสียงประกอบภาพยนตร์/เกม/โฆษณา เลือก Movie ไปเลย
🧠 ตัวอย่างการใช้งาน:
-
โปรดิวเซอร์ EDM อยากให้ Synth หลักลอยซ้าย-ขวาแบบล้อมหัว → ใช้ Render Mode: Music + Direct 2.0
-
ทำ Trailer หนัง → ใส่ระเบิดจากหลังไปหน้า ใช้ Render Mode: Movie เพื่อควบคุมทิศทางแม่นๆ
-
9. Mixer View ปรับใหม่หมด
-
✅ Fader ยาวขึ้น
— เลื่อนได้ละเอียดกว่าเดิมเยอะมาก
ลองนึกถึงการปรับวอลลุ่ม +0.3 dB ได้แม่นๆโดยไม่ต้องขยายจอหรือเล็งแบบเครียดๆ✅ แสดงผล Stack Type ได้ชัดขึ้น
— ถ้าคุณใช้ Track Stack (เช่น กลองหลาย Track มัดรวมไว้)
ตอนนี้ Logic แสดง Stack Type (Folder vs Summing) ได้ชัดเจน
พร้อมให้คุณ ปรับ Routing และ Submix ได้ลึกขึ้น ในไม่กี่คลิก
เหมาะกับใคร?
-
โปรเจกต์ที่มีหลาย Track (ร้อง, ดนตรี, FX แยกหมด)
-
คนที่ชอบจัด Layer เป็นหมวดหมู่ แล้วคุมจาก Group เดียว
-
สายมิกซ์ที่ต้องการความแม่นยำเรื่องวอลลุ่ม/บาลานซ์
ตัวอย่าง:
-
รวมกลองเป็น Stack → ปรับ Stack Master ง่าย แยก Track ก็ยังดูได้ชัด
-
เสียงกีตาร์ 4 ไลน์ → Stack ให้ดูง่าย แล้วคุมโวลลุ่มรวมจากมิกเซอร์เดียว
-
10. Marquee + Chord Track ย้ายข้ามโปรเจกต์ได้
-
ใครที่เคยทำเพลงหลายPart หลาย Movement หรือชอบเขียนคอร์ด/โครงสร้างแบบละเอียดๆ จะเข้าใจดีว่า…
เวลาจะย้าย Chord Track หรือ Time Selection ไปอีกโปรเจกต์ มันลำบากและน่าหงุดหงิดแค่ไหน!
Logic Pro 11.2 เข้าใจสายทำเพลงแบบจริงจัง เลยปลดล็อกสิ่งนี้ให้แบบ… โคตรฟินนน
Marquee + Chord Track ข้ามโปรเจกต์ได้แล้ว
-
ลาก Marquee (Selection Tool) ข้าม Section ได้ → คัดลอกไปอีกโปรเจกต์
-
Chord Track ที่ตั้งไว้ → ย้ายไปอีก Session ได้ตรงเป๊ะ ไม่ต้องสร้างใหม่
-
เหมาะกับคนทำเพลงยาว (Film Score, Arrangement ซับซ้อน, Medley ฯลฯ)
ตัวอย่างการใช้งาน
-กำลังทำเพลงประกอบหนัง 4 ตอน
ตอนที่ 1 ทำเสร็จแล้ว มี Chord Track / Tempo Map / Section Marking
→ ตอนที่ 2 อยากใช้โครงสร้างคล้ายกัน ไม่ต้องนั่งวางใหม่ทีละบาร์อีกแล้ว
แค่ “ย้าย Marquee” หรือ “Import Chord Track” เข้าไป = จบ
โคตรจะมีประโยชน์แบบชัดๆ:
-
Save เวลาโหดมากกก ไม่ต้องสร้างซ้ำ
-
ทำให้ทุกโปรเจกต์ อยู่ในคีย์เดียวกันแบบเป๊ะ
-
ช่วยคุมภาพรวมของทั้งเพลง / อัลบั้ม / ซาวด์แทร็กได้มืออาชีพกว่าเดิม
แอดพูดเลย: Logic Pro เวอร์ชั่นนี้ไม่ได้แค่เพิ่มของใหม่ แต่ “เพิ่มของที่เราต้องการมานานนนนมากกกก”
ชิ้นเล็กๆแบบนี้แหละ ที่ทำให้ชีวิตโปรดิวเซอร์ดีขึ้นแบบรู้สึกได้ -
อัปเดตฟรีทั้ง Mac และ iPad
-
Mac: โหลดฟรีผ่าน App Store ถ้าเคยซื้อแล้ว (ราคาใหม่ $199.99)
-
iPad: แค่ $4.99/เดือน หรือ $49.99/ปี พร้อมทดลองใช้ฟรี 1 เดือน
📎 อ่านรายละเอียดจาก Apple (ของจริง ไม่มโน)
สรุปส่งท้ายจากห้องอัด
ใครใช้ Logic อยู่แล้วจะบอกเลยว่าอัปเดตรอบนี้ “ไม่กดคือพลาด”
เวอร์ชันนี้คือสายโปรดิวเซอร์จริงจังที่มีผู้ช่วยเป็น AI ประจำตัว 24 ชั่วโมง
ฟีลเหมือนอยู่ห้องเดียวกับ ChatGPT, Dolby Atmos, Stem Splitter, Flashback และ Tosin Abasi พร้อมกัน — เดือดเกินต้าน! ✨
#LogicPro112 #StemSplitter #FlashbackCapture #AIinMusic #ChatGPTinLogic #โปรดิวเซอร์สายสุขุมแต่ซัดหนัก