Share

Metaverse ความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลถึงคนดนตรี

29/10/2021

    เมตาเวิร์ส คำนิยามชื่อเรียกโลกเสมือนจริง  ที่ถูกใช้ในนวนิยายวิทยาศาสตร์ ซึ่งหมายถึงโลกจำลองที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เมื่อวัก 40-50 ปีที่แล้ว แต่การพัฒนาในเทคโนโลยีปัจจุบันนั้นได้ทำไห้เราสามารถจำลองสัมผัสของมนุษย์เกือบทั้งหมด ทั้ง รูป รส เสียง และกลิ่น และสัมผัส โดยเฉพาะการจำลองรูปหรือการมองเห็นนั้นพัฒนาไปไกลจนสามารถจำลองโลกเสมือนขึ้นได้จากเทคโนโลยี AR/VR    เมื่อไม่นานมานี้ยักใหญ่ในวงการเทคโนโลยีอย่าง เฟชบุ๊คก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเสนอแผนการหลอมรวมโวเชียวเข้ากับโลกเสมือนจริง โดยโลกเสมือนจริงของเฟชบุ๊คนั้นมีชื่อว่า Meta ซึ่งจะผสานการเรียนรู้ การทำงาน การเล่นเกมส์ และแสดงดนตรีเข้าไว้ในโลกเสมือนจริงนี้ทั้งหมด ส่งผลให้แนวคิดของการทำงาน การศึกษาและดนตรีแปปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก รวมถึงการสร้างรายได้และอาชีพใหม่ๆที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าโลกเสมือนจริงนี้นอนกจากจะถูกสร้างจากฝีมือนักสร้างภาพสามมิติ แล้ว ยังมีส่วนของนักออกแบบเสียงหรือดนตรี รวมอยู่ด้วยมาดูกันครับว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่ช่วยให้คนทำเสียง/ดนตรี/นักแสดง สามารถเข้าสู่โลก metaverse ได้

http://tinesurel.com/2018/12/works-for-listening-ambisonics/

1.Hardware

    อย่างแรกมาดูที่ฮาร์ดแวร์กันก่อนครับเพราะระบบเสียงที่ใช้ในโลกเสมือนจริงนั้นจะใช้ระบบเสียง ambisonic ซึ้งเป็นเสียงรอบทิศทางเหมือนกับลำโพงที่วางเป็นวงกลมล้อมรอบตัวเราไว้ ระบบเสียงสเตอริโอในหูฟังหรือลำโพงปกตินั้นอาจพัฒนาหรือจำลองเสียงรอบทิศทางได้ไม่ดีนัก ซึ่งจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมเพื่อให้เสียงเหล่านี้แสดงตำแหน่งทิศการเคลื่อนที่ของศรีษะผู้ฟังได้ อย่างเช่นระบบ Head Tracking ของ Air pod หรืออุปกรณ์เสริมติดหูฟังอย่าง Nx Head Tracker ซึ่งเป็นอุปกรณ์ฝั่งผู้ใช้งาน ในฝั่งผู้ผลิตนั้นจะมีการใช้อุปกรณ์สำหรับถอดรหัสแบบสามแกน คือ x y z เพื่อถอดรหัสและผสมเสียงที่บันทึกอย่างต่ำ 3 แทร็คด้วยกัน และหากมีการใช้งานกับลำโพงเฉพาะทางในสตูดิโอนั้นจำเป็นต้องใช้  Ambisonic Array เพื่อแสดงตำแหน่งของเสียงนั้นๆให้ถูกต้อง    ทางด้านภาพนั้นหากมีการใช้ร่างจำลองคล้ายๆกับในหนัง Avatar ของ ผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน ก็จะเป็นหน้าที่ของ 3D artist เพื่อจำลองลักษณะทางกายภาพร่วมกับอุปกรณ์จับการเคลื่อนไหวอย่าง Body tracking ซึ่งราคาค่อนข้างสูง หรือหากเป็นการเล่นสดอาจใช้ใช้วิธีอื่นๆอย่างเช่น การ Mapping ภาพวีดีโอจำนวนมากจากกล้องวีดีโออย่างต่ำสามตัวเพื่อทำ Videogrammetry จำลองภาพโฮโลแกรมเสมือนขึ้นมา ร่วมกับ Audio-Driven Animation เพื่อจำลอง สีหน้า ท่าทางของนักแสดงนั้นๆ

http://nevaton.eu/product/nevaton-vr-ambisonic-microphone/

2 .Software

   ในฝั่ง Software นั้นโปรแกรมทำเพลงต้องสามารถสร้างแทร็คที่มี 8 output ได้เพื่อรองรับไมค์ Ambisonic  อย่างเช่นโปรแกรม Reaper และใช้งานร่วมกับปลั๊กอิน อย่างเช่น Spatial-workstation เพื่อนเข้ารหัสเสียงแบบรอบทิศทางรวมถึงการจำลองฮาร์ดแวร์ราคาแพงทั้งหลายขึ้นมาบนเสมือนจริงอย่างเช่น อุปกรณ์ดนตรี หรือเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ตามที่ผู้ออกแบบจะจินตนาการได้ซึ่งในโลกความเป็นอาจเหลือแค่ โมเดลจำลองที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น Synth VR ที่ยกโมดูลาร์ซินธ์ขึ้นมาใว้ในโลกเสมือนจริง

https://store.steampowered.com/app/1517890/SynthVR/

ในส่วนของสินค้าที่จับต้องไม่ได้นั้นจะถูกขายและยืนยันความเป็นออริจินัลด้วยโทเค็นที่ทดแทนไม่ได้ซึ่งเรียกว่า NFT ซึ่งตรงนี้เครือข่ายและสัญญาต่างจะถูกทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีบล๊อคเชน เพื่อใช้สร้างข้อตกลงร่วมกัน อย่างเช่นการเช่าหรือกู้ยืมสินค้าซึ่งตอนนี้เฟสบุ๊คก็ได้ออกสินค้าและบริการหลายๆอย่างมาเพื่อรองรับโลกเสมือนจริงที่กำลังมาถึงแล้ว  ดังนั้นเมื่อโลกเสมือนจริงที่กล่าวมานี้ถูกสร้างขึ้นและเป็นที่ยออมรับในสังคม มุมมองต่อเสียง การแสดงดนตรี และการสร้างรายได้ แน่นอนว่า Metaverse นั้นอาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายๆคนรวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย ถึงตรงนี้เราทุกคนได้ยืนอยู่ระหว่างทางเลือกที่จะปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาส หรือใช้ชีวิตอยู่กับโลกใบเก่าที่ไม่อาจกลับไปแก้ไขบางอย่างได้อีกแล้ว